วันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

“ทองเปลว” หน.พรรคประชากรไทย ประกาศหนุน “โฆษิต”


17 กุมภาพันธ์ 2556 Bangkok Election - นายทองเปลว ใจชุนสกุล รองหัวหน้าพรรคประชากรไทย และคณะกรรมการบริหารพรรค ได้มีการประชุม เพื่อหาข้อสรุปในการสนับสนุนผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. หลังจากนายสมิตร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคประชากรไทย มีมติไฟเขียวให้สมาชิกพรรคสนับสนุนผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.คนไหนก็ได้ ปรากฏว่า เสียงส่วนใหญ่ให้การสนับสนุน นายโฆสิต สุวินิจจิต ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. เบอร์ 10  เนื่องจากชอบในนโยบาย กรุงเทพฯ 24 ชั่วโมง”  และคิดว่าเป็นนโยบายที่โดนใจคนกรุงเทพฯมากที่สุด

โดยส่วนตัวผมชอบนโยบาย กรุงเทพฯ 24 ชั่วโมง เพราะเคยเป็นคนทำงาน 3 กะ มาก่อน คือ การท่าเรือแห่งประเทศไทย และคิดว่านโยบายนี้จะช่วยลดปัญหาจราจรติดขัดได้ เพราะมีการแบ่งทำงาน 3 กะ ที่จะช่วยให้กรุงเทพฯมีความคล่องตัวมากขึ้น ส่วนนโยบายทำมาหากิน 24 ชั่วโมงนั้น จะทำให้คนกรุงเทพฯ มีงานทำมากขึ้น ซึ่งสรุปโดยรวมคือ กรุงเทพ 24 ชั่วโมง เป็นนโยบายที่ดี ทำได้จริงรองหัวหน้าพรรคประชากรไทยกล่าว

ทั้งนี้ นายโฆสิต สุวินิจจิต ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เบอร์ 10 เดินทางเข้าพบนายทองเปลว ใจชุนกุล รองหัวหน้าพรรคประชากรไทย และสมาชิก ที่พรรคประชากรไทย สาขาพระโขนง เพื่อรับฟังข้อสรุปของสมาชิกพรรคในวันนี้ด้วย

หลังจากนั้น นายโฆสิตได้ออกเดินทางไปหาเสียง ที่เขตบางขุนเทียน ซึ่งเป็นแหล่งผลิตและจำหน่ายอาหารทะเลชื่อดังของกรุงเทพฯ โดยมีนโยบายที่จะพัฒนาเขตบางขุนเทียนให้เป็น ซีฟู้ด มาร์เก็ตแหล่งผลิตอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุด ในกทม. โดยจะพัฒนาให้เป็นทั้งแหล่งซื้อขายอาหารทะเล แหล่งรวมร้านอาหารซีฟู้ด และสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ

ทั้งนี้มีแนวคิดที่จะสร้างพิพิธภัณฑ์ทางทะเล ให้เป็นแหล่งเรียนรู้แบบครบวงจร สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล ประวัติบางขุนเทียน และความรู้เกี่ยวกับคุณค่าทางโภชนา เพื่อส่งเสริมให้คนกรุงเทพฯเลือกรับประทานอาหาร ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ทำให้มีสุขภาพดี 24 ชั่วโมง คือป้องกันไม่ให้เกิดโรค นอกจากนี้จะนำนโยบาย ปลอดภัย 24 ชั่วโมง มาบริหารจัดการให้สถานที่แห่งนี้มีความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง โดยจ้างบริษัท รปภ. เอกชนมาให้บริการ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ

จากนั้น นายโฆสิต ลงพื้นที่หาเสียง ย่านถนนสีลม และพัฒน์พงศ์ โดยมีแนวคิดที่ร่วมมือกับผู้ประกอบการพัฒนาร้านค้า ร้านอาหาร ผับ บาร์ ให้มีภูมิทัศน์ที่สวยงาม สะอาด และถูกสุขอนามัย มากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจการท่องเที่ยว หลังจากไทยเข้าร่วมประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 ที่จะมีนักท่องเที่ยวจากประเทศสมาชิกอาเซียนเข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น