“หมวดเจี๊ยบ” จี้ “อภิสิทธิ์”แจงเหตุเลือก “สุขุมพันธุ์” หลังพบคนนามสกุล ‘เวชชาชีวะ’ พัวพันผลประโยชน์ กทม.

ร.ท.(หญิง) สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เพื่อความสง่างาม พรรคประชาธิปัตย์ควรชี้แจงสังคมให้ชัดเจนว่า เหตุที่พรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต้องจำใจสนับสนุน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ในนาทีสุดท้าย ไม่ได้เป็นเพราะ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กุมความลับอะไรไว้ใช่หรือไม่ หรือว่ามีเบื้องหลังเบื้องลึกอะไรที่ต้องร่วมกันปกปิดเกี่ยวกับผลประโยชน์ ระหว่าง กทม.กับบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ซึ่งมีนายประพันธ์พงษ์ เวชชาชีวะ ญาติของนายอภิสิทธิ์ ร่วมเป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนามในการจัดซื้อจัดจ้างโครงการต่างๆ แทน กทม. ในฐานะวิสาหกิจของ กทม.

ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ควรทำให้สังคมมั่นใจว่า ไม่ได้มีเรื่องการเก็บผลประโยชน์ใต้โต๊ะ หรือการหักหัวคิวให้นักการเมือง จนต้องกลัวการแบล็กเมล์ หรือรายการแฉย้อนหลัง เพราะโครงการจัดซื้อจัดจ้างต่างๆ ที่บริษัท กรุงเทพธนาคม ดำเนินการให้ กทม. มีมูลค่ามหาศาล โดยที่ผ่านมาบริษัท กรุงเทพธนาคม ได้เป็นตัวแทนจัดซื้อจัดจ้างของ กทม จำนวน 23 โครงการ มูลค่าราว 14,000 ล้านบาท ซึ่งก็น่าแปลกใจที่นายอภิสิทธิ์ ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น กล้าปล่อยให้ญาติของตัวเองเป็นผู้เซ็นอนุมัติการจัดซื้อจัดจ้างงานทั้งหมดของ กทม. โดยที่นายอภิสิทธิ์ก็ไม่กลัวที่จะถูกมองว่าเข้าไปพัวพันกับผลประโยชน์ ซึ่งในฐานะที่พรรคประชาธิปัตย์ดูแลการบริหารงานของ กทม. มาตลอด

ร.ท.(หญิง) สุณิสา กล่าวต่อไปว่า นายอภิสิทธิ์ ในฐานะหัวหน้าพรรค ควรออกมาตอบให้ชัดว่าทุกอย่างโปร่งใส และต้องชี้แจงให้ได้ว่าผลประโยชน์ไปอยู่ที่ไหนบ้าง เพราะกิจการของบริษัท กรุงเทพธนาคม ก็ดีวันดีคืน และมีรายได้เพิ่มขึ้แบบเขย่งก้าวกระโดด โดยในปี 2551 มีรายได้เพียง 60.6 ล้านบาท แต่ในปี 2552 มีรายได้เพิ่มเป็น 355.7 ล้านบาท ปี 2553 มีรายได้พุ่งเป็น 698 ล้านบาท และในปี 2554 รายได้กระโดดไปเป็น 3,011 ล้า บาท

นอกจากนี้ ขอให้พรรคประชาธิปัตย์เลิกเบี่ยงเบนประเด็นว่า ข้อกล่าวหากรณีบีทีเอส เป็นการดิสเครดิตทางการเมือง แต่ควรเอาเวลามาชี้แจงข้อเท็จจริงกับสังคมจะดีกว่า เพราะขณะนี้ สังคมกำลังสงสัยว่าเหตุใดพรรคประชาธิปัตย์จึงกลับลำกะทันหัน แล้วส่ง ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ุ เป็นผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ทั้งๆ ที่แกนนำส่วนใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์เห็นว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ มีจุดอ่อนหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นความบกพร่องในการบริหารงาน หรือการที่มีความงมงายจนมากผิดปกติ ซึ่งเห็นได้จากการที่ต้องรอให้หมอดูช่วยตัดสินใจว่าจะลาออกจากตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.วันไหน จึงเป็นไปได้ว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ุ กุมความลับบางอย่างที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะนายอภิสิทธิ์พูดไม่ออก.

แฉความจริง!ที่แท้ ปชป. ส่ง “สุขุมพันธ์” เพราะกลัวพรรคแตก

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีพรรคประชาธิปัตย์ มีมติส่ง ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ุ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.อีกครั้ง ว่า ยินดีที่พรรคประชาธิปัตย์ส่ง ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ุ ลงสมัครอีกครั้ง ซึ่งพรรคเพื่อไทยไม่รู้สึกหนักใจอะไร การที่พรรคประชาธิปัตย์ส่ง ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ุ ลงสมัครอีกครั้ง ไม่เหนือความคาดหมาย ถ้าไม่ส่ง ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ุ จะเกิดความขัดแย้งในพรรคประชาธิปัตย์ เพราะ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ุ ประกาศเปิดตัวลงสมัครไปแล้ว ถ้าไม่ได้ลงก็จะไปลงในนามอิสระ อาจทำให้เกิดการตัดคะแนนกันเองในพรรคประชาธิปัตย์ได้ ถือเป็นการแก้ปัญหาการเมืองภายในพรรคเอง ไม่ใช่การแก้ปัญหาให้คน กทม. 

งามไส้! DSI เตรียมออกหมายเรียก “สุขุมพันธุ์” คดี ‘บีทีเอส’

BangkokElection2013 -คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษกรณีการทำสัญญาให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการ ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือรถไฟฟ้าบีทีเอส ระหว่างบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด กับบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ได้ทำหนังสือรายงานความคืบหน้าคดีต่อนาย ธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อขอความเห็นการออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหาจำนวน 11 ราย มารับทราบข้อกล่าวหาในความผิดฐานร่วมกันประกอบกิจการค้าขายอันเป็นสาธารณูปโภค โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือได้รับสัมปทานจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 84 และมาตรา 86 ประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 พ.ศ.2515 ข้อ 3 และข้อ 11

ขณะที่นายธาริตกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวดีเอสไอจะแถลงรายละเอียดอีกครั้งในวันที่ 2 มกราคม 2556 พร้อมออกหมายเรียก แต่เบื้องต้นได้รับรายงานจากพนักงาน สอบสวนดีเอสไอว่า ทางพนักงานอัยการได้มีความเห็นชอบเช่นเดียวกับดีเอสไอ ในการออกหมายเรียกแจ้งข้อกล่าวหากับผู้เกี่ยวข้องทั้ง 11 ราย มีทั้งข้าราชการประจำ ข้าราชการการเมือง และบริษัทเอกชน ดีเอสไอพิจารณาเรื่องนี้ค่อนข้างระมัดระวัง มีเอกสารความเห็น คำชี้แจง ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องครบถ้วนว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดประกาศคณะปฏิวัติ อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้มองว่าเรื่องนี้ เป็นคดีการเมือง เพราะไม่ว่าจะช้าหรือเร็วดีเอสไอก็ต้องแจ้งข้อกล่าวหา หากดีเอสไอล่าช้าออก ไปดีเอสไอก็จะถูกกล่าวหาว่ากลั่นแกล้งพรรคประชาธิปัตย์

รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้ที่จะถูกแจ้งข้อกล่าวหาจำนวน 11 ราย คือ

1.ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้ควบคุม กำกับ ดูแล บริหารราชการกรุงเทพมหานคร ย่อมรู้หรือมีเหตุผลอันควรรู้ ยินยอมให้มีการทำสัญญาดังกล่าวที่ฝ่าฝืนกฎหมาย จึงถือได้ว่ามีส่วนร่วม รู้เห็นเป็นใจในฐานะเป็นตัวการ หรือผู้ใช้หรือผู้สนับสนุน ให้มีการกระทำผิดขึ้น

2.นาย ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะเป็นผู้เห็นชอบและลงนามปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ให้ความเห็นชอบโครงการเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2555

3.นายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ ปลัดกรุงเทพมหานครขณะนั้น ในฐานะได้ให้ความเห็นชอบอนุมัติและลงนามเสนอโครงการ เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2555

4.นางนินนาท ชลิตานนท์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ขณะนั้นปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าฯกทม. เป็นผู้ลงนามในสัญญาจ้างโครงการบริหารจัดการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพกับบริษัท กรุงเทพ ธนาคม จำกัด

 5.นายธนา วิชัยสาร ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง ในฐานะผู้ขออนุมัติในหลักการโครงการบริหารจัดการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2555

6.นายประพันธ์พงศ์ เวชชาชีวะ ผู้มีอำนาจ ลงนามแทนบริษัท กรุงเทพ ธนาคม จำกัด

7.นายอมร กิจเชวงกุล ผู้มีอำนาจลงนามแทนบริษัท กรุงเทพ ธนาคม จำกัด

 8.นายคีรี กาญจนพาสน์ ผู้มีอำนาจลงนามแทน บริษัท ขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (BTSC)

9.นาย สุรพงษ์ เลาหะอัญญา ผู้มีอำนาจลงนามแทน บริษัท ขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (BTSC)

10.บริษัท กรุงเทพ ธนาคม กำจัด และ

11.บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ (BTSC)

“กอร์ปศักดิ์” รู้ตัว ปชป.ไม่ส่งแน่ ตัดพ้อ “เราคือตัวซวย” ก่อนพรรคเคาะ

นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ อดีตกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ หนึ่งในผู้เข้าแสดงวิสัยทัศน์ลงสมัครผู้ว่าฯกทม. ต่อคณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. ชุดที่มีนายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นประธาน ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟชบุ๊คส่วนตัว ถึงการเข้าแสดงวิสัยทัศน์ ตอนหนึ่งว่า    

กรรมการฯ ตั้งคำถามว่า ทำไมถึงอยากลงสมัคร ตนตอบไปว่า ไม่เคยคิด แต่พอทราบว่า นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่สนใจในตำแหน่งนี้ ก็เกิดความกังวลว่า พรรคน่าจะมีทางเลือก จึงตัดสินใจเสนอชื่อตนเอง หลังจากนั้นก็เสนอนโยบายสารพัดและพูดคุยกันต่อเกือบทุกเรื่อง และมีกรรมการท่านหนึ่งถามว่า ตนทำยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์มาสองครั้ง แล้วพรรคก็แพ้ทั้งสองครั้ง ครั้งนี้มาเสนอตัวลงสมัครผู้ว่าฯกทม.แล้ว ไม่กลัวแพ้หรือ

         “แปลว่า เราคือตัวซวย หรือไม่ก็ เก่งมากคือ เป็นต้นตอที่ทำให้พรรคแพ้เลือกตั้งถึงสองครั้ง สุดยอดของคำถาม ทำให้ต้องพิจารณาตัวเองอย่างจริงจังเหมือนกัน แต่นึกไปนึกมาก็อดขำไม่ได้ว่า คนเรานี่แปลกดี ไม่เคยส่องกระจกดูตนเองแต่มักจะโทษคนอื่นเป็นนิจ”

ดัมมี่อีกแล้ว! ปชป.จำใจส่ง “สุขุมพันธุ์” ลงอีกสมัครผู้ว่าฯสมัย

BangkokElection2013 (วันที่ 27 ธันวาคม 2555) - ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคเป็นประธาน มีมติเป็นเอกฉันท์เลือกม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ให้เป็นผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในนามของพรรคหลังใช้เวลาหารืออย่างเคร่งเครียดนานกว่า 3 ชั่วโมง

การประชุมวันนี้ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ประธานคณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครส่งข้อสรุปจุดอ่อนจุดแข็ง ของผู้แสดง ความจำนงทั้ง 4 คน ประกอบด้วย นายอภิชัย เตชะอุบล อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ สำนักนายกรัฐมนตรี ,นายกอปร์ศักดิ์ สภาวสุ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ,นาย ประกอบ จิรกิตติ อดีตรองผู้ว่าก.ท.ม และ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทมคนปัจจุบัน

ปชป.ส่อเฉดหัว”สุขุมพันธุ์” มีแววส่งชื่อ “กรณ์-องอาจ” ลง ผู้ว่าฯกทม.

BangkokElection2013 - ความคืบหน้าการคัดเลือกตัวแทนของพรรคประชาธิปัตย์ ที่จะลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในขณะนี้มีการหารือกันภายในพรรคว่า มีความเป็นไปได้สูงที่การพิจารณาของคณะกรรมการบริหารพรรคจะเสนอชื่อนายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรค ภาคกทม.และนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งถือว่าทั้ง 2 คนเป็นผู้ที่เหมาะสมขึ้นมาพิจารณาใหม่ในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค นอกเหนือจากข้อสรุปของคณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์ ที่มีนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นประธาน จะสรุปผลการแสดงวิสัยทัศน์ของผู้ที่สมัครคัดเลือก ประกอบด้วย นายอภิชัย เตชะอุบล ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ และนาย กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ อดีตกรรมการบริหารพรรค นายประกอบ จิรกิติ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. ที่ประกาศจะลงสมัครเลือกตั้งอีกครั้ง

 

ซึ่งสาเหตุที่ต้องมีการเสนอชื่อของนายกรณ์และนายองอาจ นั้นเนื่องจาก นายอภิชัย นายประกอบ และนายกอร์ปศักดิ์ ประชาชนยังไม่ค่อยมีความรู้จัก หรือจะรู้กันกันก็เฉพาะในแวดวงเท่านั้น เพราะผู้ที่จะสมัคร ต้องมีความรู้ในงานของ กทม. และมีฝีมือที่จะบริหารงานด้วย ขณะที่ม.ร.ว.สุขุมพันธ์นั้น ก็มีกระแสเข้ามายังพรรคจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นเสียงสะท้อนของส.ส. ส.ก. ส.ข. และประชาชน ที่ต้องการให้เปลี่ยนตัวผู้สมัครของพรรค ซึ่งคาดว่าคณะกรรมการบริหารพรรค จะสรุปเรื่องดังกล่าวได้ในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตามเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการบริหารพรรค จะทำความเข้าใจกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ ไม่ให้ลงสมัครเลือกตั้งอีกครั้ง แต่ก็ต้องใช้เวลาพูดคุยด้วย.

ปชป.ดักคอ “สุขุมพันธุ์” ไม่น่างอแง หากพรรคไม่ส่งลงผู้ว่าฯ เปรยอาจมีมากกว่า4ชื่อแรก

BangkokElection2013 -  นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการสรรหาผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. ว่า คณะกรรมการบริหารพรรค มีสิทธิที่จะเสนอรายชื่อบุคคลอื่นที่เห็นว่าเหมาะสมให้เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. นอกเหนือจาก 4รายชื่อที่คณะกรรมการคัดเลือกชุดนายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นประธาน เสนอมา และผลการตัดสินใจของคณะกรรมการบริหารพรรคจะถือว่า เป็นที่สิ้นสุด ส่วนการที่มีข่าวว่านายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ และนายกรณ์ จาติกวนิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มีความเหมาะสมนั้น  มีความเป็นไปได้ทุกคน

เมื่อถามว่า การตัดสินใจที่เกิดขึ้นจะทำให้ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. น้อยใจหรือไม่ นายเฉลิมชัย กล่าวว่า คงไม่ เพราะในวันที่ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เป็นผู้ว่าฯ กทม. ก็มาตามกระบวนการนี้ เชื่อว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ มีสปิริตพอ และตอนนี้ก็ยังไม่ได้ตัดสินว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ จะไม่ได้ลงสมัคร ก็ต้องรอประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคก่อน และเชื่อว่า ปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคคงมีน้อย เพราะทุกคนเคารพมติพรรค และเราจะทำอย่างเต็มที่เพื่อรักษาฐานเสียงในกทม. โดยจะคัดเลือกคนที่มีความพร้อมที่สุด และเป็นที่รู้จักของคนกทม. และหากประกาศชื่อมารับรองจะไม่ทำให้ผิดหวัง อย่างไรก็ตามจากข่าวที่มีการระบุว่า จะมีการเสนอชื่อบุคคลอื่นเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคนั้น สำหรับตนในฐานะเลขาธิการพรรค คงจะไม่เสนอ เพราะตนมีหน้าที่เป็นเลขาในที่ประชุม คงได้แต่รับทราบการประชุม 

"แทนคุณ" แถลง! สัมผัสได้ว่าพรรคเพื่อไทยจะส่ง "พล.ต.อ.พงศพัศ" ชิงผู้ว่าฯกทม.

BangkokElection2013 - นายแทนคุณ จิตต์อิสระ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวว่า ส่วนตัวเชื่อมั่นว่า พรรคเพื่อไทย ส่ง พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงชิง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร อย่างแน่นอน เพราะเห็นได้ชัด จากการประชาสัมพันธ์ โปรโมทในรูปแบบต่างๆ ซึ่งถือว่าไม่เป็นธรรมกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ไม่ได้โฆษณาประชาสัมพันธ์การทำงานของตัวเองจนกว่าจะหมดวาระ

ขณะที่ความเคลื่อนไหวในส่วนของผู้ลงสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการคัดเลือกอยู่

ปชป.ร้าวลึก! “องอาจ” ปัดส่ง กรณ์ลงผู้ว่าฯ ยอมรับมีคนทาบทามให้ตนลงสมัคร

BangkokElection2013 (วันที่ 26 ธันวาคม 2555) - นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความคืบหน้าในการคัดเลือกตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยตอบถึงกระแสข่าวที่ระบุว่า ตนและนายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อยู่ในรายชื่อผู้ที่ถูกเสนอชื่อลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครของพรรค และที่มีกระแสข่าวที่ระบุว่า ตนได้ล็อบบี้สมาชิกและกรรมการบริหารพรรคเพื่อให้ส่งชื่อตนลงชิงตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.นั้น ขอยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง ตนไม่เคยล็อบบี้ใคร ไม่เคยแสดงเจตจำนงไปแสดงวิสัยทัศน์กับกรรมการคัดเลือกของพรรค แต่ยอมรับว่า มีคนมาทาบทามให้ลงสมัครจริง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีผู้เสนอตัวและได้มีการแสดงวิสัยทัศน์ไปหลายคนแล้ว ซึ่งก็มีกระบวนการพิจารณาชัดเจนอยู่แล้งคงต้องรอผล และขั้นตอนสุดท้ายอยู่ที่กรรมการบริหารพรรคว่าจะตัดสินใจว่า ใครเหมาะสมที่จะเป็นผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ในนามพรรค

“หมาหอน”ล่วงหน้า 'สุขุมพันธุ์' โปรยเงินเยียวยาน้ำท่วม ทิ้งทวนก่อนปีใหม่

BangkokElection2013 (วันที่ 26 ธันวาคม 2555) - นายวสันต์ มีวงษ์ โฆษกกทม. กล่าวภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารกทม.ว่า ครั้งนี้ถือเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของการดำรงตำแหน่งของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. โดยอาจจะงดการประชุมวันที่ 7 ม.ค.56 หากไม่มีวาระเร่งด่วน ส่วนการประชุมครั้งนี้ที่ประชุมได้หารือเรื่องการจ่ายเงินเยียวยาน้ำท่วมของประชาชน ซึ่งขณะนี้กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลังได้อนุมัติเงินส่วนขาดจำนวน 1,100 ล้านบาทแล้ว โดยอยู่ระหว่างการโอนเงินดังกล่าวมาให้กทม. หากในช่วงบ่ายวันนี้มีการโอนเงินมาให้กทม. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กำชับให้ดำเนินการเร่งด่วน เนื่องจากประชาชนที่ได้รับผลกระทบรอมานานข้ามปี ทั้งนี้ หากประชาชนที่ได้รับผลกระทบมีบัญชีของธนาคารกรุงไทย จะได้รับเงินภายใน 2 วันนี้ ส่วนผู้ที่ไม่มีบัญชีธนาคารกรุงไทยจะได้รับแคชเชียร์เช็คภายในวันที่ 31 ธ.ค.นี้

กกต. เผยเตรียมการจัดการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.กว่า80% คาดมีผู้ใช้สิทธิมากขึ้น

BangkokElection2013 (วันที่ 26 ธันวาคม 2555) - นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมจัดเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.)ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2556 ว่า ขณะนี้ทาง กกต.ได้เตรียมการด้านบริหารการจัดการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครไปแล้วร้อยละ 80 ทั้งการจัดสถานที่ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งจำนวน 6,506 หน่วยเลือกตั้ง โดยเน้นให้จัดหน่วยเลือกตั้งภายในอาคาร เพื่อความสะดวกและปลอดภัยของผู้ไปใช้สิทธิ รวมถึงการจัดหากรรมการเลือกตั้งท้องถิ่นเรียบร้อยแล้ว

หลังจากมีการจัดประกาศการเลือกตั้งแล้ว กกต.จะมีหนังสือแจ้งไปยังผู้มีสิทธิเลือกตั้งถึงเจ้าบ้านโดยตรง รวมทั้งประสานไปยังการประปานครหลวง การไฟฟ้านครหลวง และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ให้ช่วยรณรงค์ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งเพื่อให้ประชาชนได้รับทราบ

ตกกระป๋อง “คุณชาย” ซัด ไม่แคร์ ปชป. หากไม่ส่งลงสมัครผู้ว่าฯกทม. อาจลงอิสระ

BangkokElection2013 (วันที่ 26 ธันวาคม 2555) - ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครเลือกตั้งในนามพรรคประชาธิปัตย์ ประชุมหาข้อสรุปการส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งในวันนี้ ว่า ไม่กังวล เนื่องจากเป็นหน้าที่ของพรรคในการตัดสินใจ หากผลออกมาเป็นอย่างไรก็เคารพการตัดสินใจของพรรค ทั้งนี้ขอทำงานให้กับประชาชนก่อนหมดวาระในวันที่ 10 มกราคม 2556 ขณะเดียวกันปฏิเสธตอบคำถามหากพรรคไม่ส่งตนเองลงชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครอีกสมัย จะลงสมัครในนามอิสระหรือไม่ เนื่องจากไม่สามารถคาดเดาเหตุการณ์ล่วงหน้าได้

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ยังไม่ตอบคำถามถึงกระแสข่าวกรณีถูกพรรคตำหนิเรื่องการชิงตัดหน้าเปิดนโยบายหาเสียงก่อนมติพรรค โดยเป็นเพียงการพูดคุยถึงการทำงานร่วมกันที่ผ่านมาเท่านั้น

"พันธมิตร" ประกาศเลิกหนุน ปชป. ส่ง "เสรีพิศุทธ์" เข้าประกวดผู้ว่าฯกทม.

นายประพันธ์ คูณมี แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย  โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "ประพันธ์ คูณมี" ถึงเหตุผลสำคัญที่เลือกสนับสนุน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เป็นผู้ว่าฯ กทม. ดังนี้ การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้ จะเป็นการแข่งขันระหว่างผู้สมัครที่สังกัดพรรคการเมือง กับผู้สมัครอิสระที่ไม่สังกัดพรรคการเมือง การใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งนี้จึงมีความหมายและความสำคัญต่อคน กทม. สำหรับผมเห็นว่าการใช้สิทธิเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมมีหลักพิจารณาว่า เราจะทำอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่คน กทม. และประเทศชาติ ทั้งเพื่อเป็นการใช้สิทธิ และทำหน้าที่ของตนเองให้เกิดประโยชน์และเป็นผลดีที่สุด ผมจึงตัดสินใจสนับสนุนคุณเสรีพิศุทธ์ ด้วยเหตุผลดังนี้

1.กทม.เป็นมหานครขนาดใหญ่ มีรูปแบบการบริหารแบบพิเศษ โดยเจตนารมณ์ที่ต้องการให้มีคณะผู้บริหาร กทม. บริหารโดยยึดเอาประชาชน กทม.เป็นที่ตั้ง มุ่งแก้ไขปัญหาของเมืองและท้องถิ่นเป็นสำคัญ ผลประโยชน์ของประชาชนคือเป้าหมายสูงสุด ต้องอยู่เหนือผลประโยชน์ของกลุ่ม หรือพรรคการเมืองใดๆ

2.การเมืองโดยระบบพรรคการเมืองของไทยที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ถือเป็นการเมืองที่ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง หากปล่อยให้ กทม.อยู่ใต้อำนาจการครอบงำของพรรคและนักการเมือง โดยเฉพาะพรรคใหญ่สองพรรค ที่ต่างแก่งแย่งแข่งขันชิงอำนาจกัน เพียงหวังใช้ กทม.เป็นฐานอำนาจทางการเมือง โดยเอาคน กทม.เป็นตัวประกัน ก็มีแต่จะทำให้ประชาชนเสียประโยชน์ เพราะผู้ว่าฯ ที่อยู่ใต้สังกัดพรรคการเมือง ย่อมตกอยู่ภายใต้การบังคับบงการของพรรคการเมือง ซึ่งล้วนแต่ไม่อาจเป็นที่พึ่งแก่ประชาชนได้

3.การมีผู้ว่าฯ กทม.ที่เป็นอิสระ โดยได้รับคะแนนสนับสนุนส่วนใหญ่ในกทม. จะทำให้ประชาชนเป็นผู้มีอำนาจโดยแท้จริง และผู้ว่าฯ กทม.คนดังกล่าวย่อมมีความเชื่อมโยงผูกพันกับประชาชน โดยไม่ตกอยู่ใต้อาณัติของพรรคการเมือง หรืออิทธิพลอื่นใด ย่อมทำให้ผู้ว่าฯ เคารพประชาชน ทำงานโดยยึดถือผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ เพราะประชาชนเป็นนายของผู้ว่าฯ มิใช่พรรคการเมือง ที่จะมากำกับบงการได้

4.ณ สถานการณ์ปัจจุบัน เป็นที่ทราบการดีว่าประชาชนทั้งหลายล้วนเอือมระอา และเบื่อหน่ายต่อพรรคและนักการเมืองในปัจจุบัน ด้วยเห็นพฤติกรรมและธาตุแท้ของพรรคและนักการเมืองทั้งหลายเหล่านั้น ว่ามิได้ยึดถือผลประโยชน์ประชาชนเป็นสำคัญ ต่างต่อสู้แย่งชิงอำนาจกันเพียงเพื่ออำนาจและผลประโยชน์เท่านั้น หาได้มีความจริงใจต่อประชาชนไม่ ประชาชน กทม. ส่วนใหญ่ต่างเอือมระอาและเบื่อหน่ายพรรคและนักการเมืองเหล่านั้น จึงน่าจะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับประชาชน ที่จะเลือกสนับสนุนผู้สมัครอิสระ เพื่อเป็นการสั่งสอน และส่งสัญญาณให้พรรคและนักการเมืองเหล่านั้นได้พึงสังวร และปรับปรุงตัวเอง

5.เมื่อผมเห็นว่าควรสนับสนุนผู้สมัครอิสระมากกว่าพรรคการเมือง และคุณเสรีพิศุทธ์เป็นบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุดในบรรดาผู้สมัครอิสระด้วยกัน ทั้งโดยส่วนตัวผมรู้จักและเห็นผลการทำงานที่ผ่านมาที่ผมยอมรับได้ ประกอบกับเป็นบุคคลที่มีความจงรักภักดีอย่างสูงยิ่งต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ผมจึงสนับสนุน

 6. ผมทราบดีว่าคนเรามีจุดแข็งจุดอ่อน มีข้อดีข้อเสียในตัวเองด้วยกันทุกคน มีคนรักและมีคนเกลียด มีความดีและความไม่ดีมากน้อยต่างกัน สุดแท้แต่ทัศนคติและเหตุผลมุมมองของแต่ละท่าน คงไม่มีใครดีสมบูรณ์ที่สุด แต่สิ่งหนึ่งที่ผมให้ความมั่นใจกับพี่น้องได้ คือ เมื่อผมทำงานกับใคร เราจะทำงานร่วมกันในสิ่งที่ถูกต้องและเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติ และประชาชน ผมจะไม่ยอมให้ความไม่ถูกต้องหรือการทุจริตคดโกง สร้างความเสียหายแก่ประชาชนเกิดขึ้นโดยเด็ดขาด นี่คือเหตุผลสำคัญที่ผมเลือกสนับสนุนเสรีพิศุทธ์ สมควรได้รับเลือกเป็นผู้ว่าฯ กทม. อย่างไรก็ตาม ผมเคารพความคิดเห็นและดุลพินิจของพี่น้องประชาชนทุกคน กทม.เป็นของพวกเราทุกคน อำนาจและสิทธิการตัดสินใจเป็นของท่านทุกคนครับ

7. เมื่อได้ตัดสินใจเช่นนี้แล้ว ผมจึงจำเป็นต้องขอลาออกจากการเป็นแกนนำของพันธมิตรประชาชนฯ เพื่อให้เกิดความชัดเจน เพราะการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เป็นงานเลือกตั้งในระดับท้องถิ่น เป็นคนละบทบาทและหน้าที่ แต่ความเป็นพันธมิตรฯ จะยังอยู่ในเลือดเนื้อและชีวิตของผมตลอดไป

เริ่มออกลาย! "เสรีพิศุทธิ์” หาเสียงย่านดอนเมือง ปล่อยมุขโวยพรรคใหญ่ซื้อเสียง

พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในนามผู้สมัครอิสระ โดยใช้ชื่อกลุ่มพลังกรุงเทพ  ลงพื้นที่หาเสียงตลาดวัฒนานันท์หรือตลาดฝั่งโขง เขตดอนเมือง โดยชูวิสัยทัศน์ จัดการยอด ปลอดการโกงกิน เหรียญอัศวินเป็นประกัน  ขณะที่ประชาชนกำลังเดินจับจ่ายซื้อของในตลาดช่วงเช้า กันอย่างคึกคัก

   

พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เปิดเผยในขณะที่หาเสียงว่าการลงพื้นที่หาเสียงวันนี้ประชาชนในเขตดอนเมืองก็ให้การตอนรับเป็นอย่างดี ส่วนในพื้นที่นี้จะได้คะแนนเสียงเยอะหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถจะมั่นใจขนาดนั้นได้เพราะต้องลงในหลายพื้นที่ เพื่อดูว่าจะมีประชาชนรู้จักและเชื่อมั่นตนเองหรือเปล่า ส่วนที่พรรคเพื่อไทยจะส่งพลตำรวจเอกพงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการ ป.ป.ส. ลงสมัครและม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร  ลงในนามพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งพรรคใหญ่นั้นมีฐานเสียงอยู่แล้วตนเองก็หนักใจอยู่บ้างเพราะเป็นพรรคใหญ่มีฐานเสียงจัดตั้ง การหาเสียงเป็นระบบ แต่ถ้าในนามอิสระนั้นตนก็ไม่กังวล แต่ในขณะนี้ตนเองก็ทราบมาว่าแต่ละพรรคก็มีการเริ่มซื้อเสียงกันบ้างแล้ว อย่างเช่นในเขตพื้นที่เขตทวีวัฒนา คลองเตย ส่วนตนเองเป็นตำรวจจะไม่ซื้อเสียงเด็ดขาด  จึงอยากฝากไปที่คณะกรรมการการเลือกตั้งให้ตรวจสอบและเอาจริงเอาจังในเรื่องนี้ด้วย พร้อมกันนี้พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ ยังย้ำนโยบายหลักคือเพิ่มสวนสาธารณะให้คนกรุงเทพและประชาชนต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดีมีอาชีพและงานที่ดี

เปิดงบลงทุน “โต้-สุหฤท” หาเสียงผู้ว่าฯ อัพเกรดสู่การเมือง

BangkokElection2013 (วันที่ 24 ธันวาคม 2555) - โต้ - สุหฤท สยามวาลา"  เจ้าของสมญานาม "พ่อมดอิเล็กทรอนิกส์" เจ้าของธุรกิจเครื่องเขียน ดี เอช เอ สยามวาลา (DHA SIAMWALLA) ผู้ประกาศลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร เขียนในเฟซบุ๊คส่วนตัว DJ Suharit Siamwalla กรณีที่หลายฝ่ายออกมาแสดงความคิดเ้ห็น ถึงการประชาสัมพันธ์ หาเสียง ในสังคมออนไลน์เป็นหลัก ของนายสหฤท

นายสุหฤท ระบุว่า ไขข้อข้องใจของหลายท่านว่าผมจะไปรอดเหรอเพราะเน้นประชาสัมพันธ์แต่ social media อย่างเดียว สู้คนอื่นไม่ได้ดอก ผมขอแชร์ให้ฟังก่อนที่ผมตัดสินใจลงสมัครในครั้งนี้ดังนี้ครับ

1. leaflet แนะนำตัว 3 ล้านแผ่น แผ่นละสลึงเท่ากับ 7 แสนบาท

2. สติกเกอร์ 1 ล้านดวง ดวงละ 10 สตางค์ 1 แสนบาท

3. ป้ายตามถนนที่ท่านเห็นกันสำหรับหน้าใหม่อย่างผมอีกประมาณ 10-15 ล้านบาท

4. บิลบอร์ดเดือนละ 4 แสน ค่าทำอีก 4 แสนรวม 8 แสน

5. TVC ค่าสื่อ 5 ล้านแบบคนไม่เห็น ค่าทำหนัง 5 แสนบาท

6 .ไม่รวมทีมกฏหมาย ที่ปรึกษา ทีมงานหาเสียง อุปกรณ์

ผมไม่รวมตัวเลขให้นะครับ แต่เงินเก็บในชีวิตผมผมให้ลูกผมครับ มันไม่ใช่เงินมาลงทุนเลือกตั้ง เพราะผมไม่ไปถอนทุน ผมเชื่อในพลังสังคมและการบอกต่อๆกันไป... อ้าวแล้วมาเสือกลงทำไม? ครับผมอยากพิสูจน์ว่า ถ้าผมทำเต็มที่ด้วยความตั้งใจจริงต่อกรุงเทพฯ แล้วแพ้ เพราะระบบก็ให้มันเป็นอย่างนั้น แล้วมายอมรับกันครับว่า ไม่มีทางตรงไปตรงมาใดๆ ได้ในการเมืองไทย พลังสังคมเราไม่มากพอเปลี่ยนแปลงใดๆ ถ้าผมจะแพ้ก็ขอด้วยความคิดของสังคมที่ว่า "ผมไม่เก่งพอ" มิใช่ "ผมมีเงินไม่พอ"

ผมรักกรุงเทพฯครับ

สุหฤท สยามวาลา

“พงศพัศ” ลุยงานโครงการชุมชนสีขาว แจง ทำงานไม่ใช่หาเสียง

 BangkokElection2013 (วันที่ 23 ธันวาคม 2555) - พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเลขาธิการ ป.ป.ส. ได้เดินพบปะประชาชนที่เข้าร่วมโครงการ การเคหะชุมชนสีขาว ปลอดยาเสพติด ที่สนามกีฬาคลองจั่น หลังนายกรัฐมนตรี ทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ

โครงการดังกล่าว สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปราบยาเสพติด (ป.ป.ส.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นอีกหนึ่งหน่วยงานที่ร่วมผลักดันในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชน และรัฐบาลได้ประกาศให้นโยบาย พลังแผ่นดินขจัดสิ้นยาเสพติด เป็นวาระแห่งชาติ ที่ต้องเร่งแก้ไข และกำหนดยุทธศาสตร์อย่างเป็นรูปธรรม

         

ทั้งนี้ พล.ต.อ.พงศพัศ ยังกล่าวปฏิเสธอีกว่า ไม่ได้ใช้เวทีนี้เพื่อหาเสียงในการลงสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตามที่เป็นว่าที่แคนดิเดตของพรรคเพื่อไทย

“พร้อมพงศ์” ยืนยัน พท. ไร้ความขัดแย้ง ร่วมใจนำนโยบายที่ดีเพื่อ กทม.

 BangkokElection2013 (วันที่ 23 ธันวาคม 2555) - ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีที่มีหลายฝ่ายแสดงความคิดเห็นว่ามีความขัดแย้งเกิดขึ้นภายในพรรคเพื่อไทย ทั้งแกนนำพรรค ส.ส. ส.ก. และส.ข. เรื่องการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.นั้นว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง ทางพรรคเพื่อไทยได้เตรียมความพร้อมส่งผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. โดยการประชุมพรรควันที่ 25 ธ.ค.นี้จะมีการหารือเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับ ส.ส. ส.ก. และ ส.ข. พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมจัดทำนโยบายต่างๆ ซึ่งขณะนี้พรรคได้ดำเนินการไปเกือบ 100% แล้ว

ส่วนนโยบายของผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.เองนั้นก็จะมีนโยบายเฉพาะ และมีการเตรียมการนำเสนอเช่นกัน ทั้งนี้ทางคณะกรรมการ 3 โซนของกทม.จะส่งรายชื่อผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ต่อคณะกรรมการบริหารพรรคในวันที่ 10 ม.ค. 56  ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของวันดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.คนปัจจุบัน อย่างไรก็ตามยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยไม่มีความขัดแย้งเกิดขึ้นในพรรค เพราะส.ส. ส.ก. ส.ข. และแกนนำพรรคจะร่วมใจนำนโยบายที่ดี เพื่อแก้ไขปัญหาให้คนกทม. ให้เป็นเมืองแห่งการสร้างรายได้ของประชาชน

ทิ้งทวน! "สุขุมพันธุ์" ลงนาม "บีอาร์ที" 10 บาท ถึงสิ้นปี 2555

BangkokElection2013 (วันที่ 23 ธันวาคม 2555) - รายงานข่าวจากศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) แจ้งว่า สำนักการจราจรและขนส่ง(สจส.) กทม.ได้มีหนังสือถึงอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขส.) กระทรวงคมนาคม นำเรื่องเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง เพื่อพิจารณาอนุญาตให้ กทม.ขยายเวลาการจัดเก็บค่าโดยสารรถโดยสารประจำทางด่วนพิเศษแบบชิดเกาะกลาง (บีอาร์ที)ในเส้นทางหมวด 1 สายที่ 402 เส้นทางจากถนนสาทร-ถนนราชพฤกษ์ ซึ่ง กทม.ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งประจำทางด้วยรถที่ใช้ขนส่งผู้โดยสารเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2553 (ใบอนุญาตเลขที่ 3/2553) อัตราเดียว 10 บาทตลอดสายออกไปอีกเป็นระยะเวลา 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2556 ถึงวันที่ 31 ธ.ค.2556 พร้อมแนบข้อมูลปริมาณผู้โดยสารและรายได้จากการจัดเก็บค่าโดยสาร (10 บาทตลอดสาย) ที่ กทม.รวบรวมสถิติไว้ระหว่างช่วงเดือน ต.ค.2554-ต.ค.2555 ที่ผ่านมา ตลอดจนรายละเอียดผลการพิจารณาของคณะผู้บริหาร กทม.และข้อเสนอแนะจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามที่ผู้ว่าฯ กทม.ได้ให้ความเห็นชอบภายใต้นโยบายการลดค่าครองชีพของประชาชน และสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้บริการระบบขนส่งมวลชนสาธารณะต่อไป ทั้งนี้ เอกสารดังกล่าว กทม.ได้ส่งให้ทางกรมการขนส่งทางบกตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา และยังไม่ได้รับการประสานเพื่อเรียกตัวแทนเข้าร่วมประชุมชี้แจงในที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางแต่อย่างใด

ด้านนายมานิต เตชอภิโชค รองปลัด กทม.ในฐานะกำกับดูแลสำนักการจราจรและขนส่ง กล่าวว่า หลังจากที่แผนจัดเก็บค่าโดยสารอัตราเดียว 10 บาทตลอดสาย ตามนโยบายของ กทม.จะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธ.ค.นี้ ประกอบกับเมื่อช่วงเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) ในฐานะที่ได้รับมอบหมายและว่าจ้างจาก กทม.ให้เป็นผู้รับผิดชอบบริหารจัดการเดินรถ โครงการให้บริการรถเมล์ด่วนพิเศษบีอาร์ทีสายช่องนนทรี-ราชพฤกษ์ ได้มีหนังสือแจ้ง กทม.ว่า จากรายงานผลการสังเกตการณ์ปริมาณผู้โดยสารในช่วงปีที่ผ่านมา พบว่า มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะปริมาณผู้โดยสารที่ใช้บริการในวันธรรมดามีจำนวนเข้าใกล้ 20,000 คนต่อวันแล้ว
     
ดังนั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนรู้จักและสนับสนุนการใช้บริการระบบขนส่งมวลชนสาธารณะแทนการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล รวมทั้งลดภาระค่าใช้จ่ายในยุคที่ค่าครองชีพมีแนวโน้มปรับสูงขึ้น อีกทั้ง กทม.เองมีแผนเปิดให้บริการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีลมระยะทาง 5.3 กม.ช่วงจากสถานีตากสิน-บางหว้า ภายในปี 2556 ซึ่งมีจุดต่อเชื่อมกับโครงการรถเมล์ด่วนพิเศษบีอาร์ทีบริเวณสถานีราชพฤกษ์ ทางเคทีในฐานะผู้บริหารระบบ จึงเห็นว่า หาก กทม.ขยายเวลาจัดเก็บค่าโดยสาร 10 บาทตลอดสายออกไปอีก 1 ปี ประชาชนจะได้รับประโยชน์จากโครงการบีอารทีที่จะกลายเป็นระบบขนส่งประชาชนผู้โดยสารขนาดรอง (Feeder) ได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไปในอนาคต ซึ่ง สจส.กทม.ได้พิจารณาแล้วว่าสมควรแก่การดำเนินการตามที่เคทีให้ข้อเสนอแนะ และได้นำข้อมูลทั้งหมดรายงานต่อปลัด กทม.ก่อนส่งให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.ขออนุมัติและได้รับความเห็นชอบตั้งแต่เมื่อวันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องรอให้คณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางมีมติอนุมัติตามที่ กทม.เสนอไป กทม.จึงจะสามารถประกาศให้ประชาชนรับทราบการคงนโยบายการเก็บค่าตั๋วโดยสาร 10 บาทตลอดสาย จนถึงสิ้นปี 2556 อย่างเป็นทางการอีกครั้ง

ศึกปชป.! "กอร์ปศักดิ์" หัก "สุขุมพันธุ์" ออกตัวสนใจสนามกทม.เตรียมพบ กบห.พรรค !

BangkokElection2013 (วันที่ 20 ธันวาคม 2555) – นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจในรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 1 ใน 4 ตัวเลือกในการส่งลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าฯกทม. ของพรรคประชาธิปัตย์ที่นายอภิสิทธิ์ออกมาประกาศไว้ก่อนหน้านี้ เขียนข้อความผ่านทวิตเตอร์แสดงออกชัดเจนว่าตนมีความสนใจในการลงเลือกตั้งสนามกทม. อย่างแน่ชัด ทั้งนำเสนอบทความ “ผมรักกรุงเทพ” ที่นายกอบศักดิ์ได้เคยเขียนไว้เมื่อ 5 ปี และในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ก็จะเดินทางไปที่พรรคประชาธิปัตย์เพื่อให้กรรมการพรรคได้พิจารณาตัดสินใจส่งตนส่งสมัครผู้ว่าฯกทม.

“เพื่อไทย” เผยเตรียมนโยบาย แคเปญ หาเสียงกทม.ไว้แล้ว

BangkokElection2013 (วันที่ 20 ธันวาคม 2555) – นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยชุดใหม่นัดแรกว่า ที่ประชุมยังมีมติเรื่องการพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการการเมืองโดยนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้พิจารณา ส่วนเรื่องการส่งผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.นั้น ทางกรรมการบริหารพรรคจะเป็นผู้พิจารณาเรื่องตัวผู้สม่คร โดยที่ประชุมยังไม่ได้หารือถึงตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. เพราะขณะนี้ทางคณะกรรมการทั้ง 3 โซนของกทม.ยังไม่ได้เสนอชื่อบุคคลที่จะลงสมัครมาให้พิจารณา แต่คาดว่าจะพรรคจะส่งผู้สมัครได้ทันตามกำหนดเวลา ยืนยันพรรคจะเปิดตัวผู้สมัครก่อนวันที่ 10 มกราคม 2556

นายพร้อมพงศ์ อย่างไรก็ตาม นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคแจ้งต่อที่ประชุมว่า พรรคเตรียมนโยบายและแคมเปญหาในการหาเสียงไว้แล้ว เช่น โครงการบ้านมีรั้ว เพื่อแก้ปัญหาคนกรุงเทพฯ กว่า 2,220 ชุมชน แก้ปัญหาทุกสาขาอาชีพ ทั้งนี้มีความคืบหน้าไปถึง 80 เปอร์เซ็นต์แล้ว นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมองถึง 2 แนวทางในการเตรียมความพร้อมคือ

1.กรณีผู้ว่าฯกทม.อยู่จนครบวาระ และ

2.ผู้ว่าฯกทม.จะลาออกก่อนครบวาระ ซึ่งพรรคจะต้องเตรียมความพร้อมในการเปิดตัวผู้สมัคร

“เสรีพิศุทธ์” ลุยพุทธมณฑลสาย 2 หาเสียงชิงตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.

BangkokElection2013 (วันที่ 20 ธันวาคม 2555) – พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) เริ่มลงพื้นที่ กทม.ย่านฝั่งตะวันตก หาเสียงที่บริเวณตลาดย่านพุทธมณฑล สาย 2 ได้รับความสนใจจากบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่ผ่านมา พร้อมกล่าวว่าเชื่อมั่นว่า การลงรับสมัครเลือกตั้งครั้งนี้ ตนจะได้รับความสนใจในฐานะผู้สมัครอิสระ เนื่องจากขณะนี้ผู้คนส่วนใหญ่ต่างเบื่อหน่าย 2 พรรคการเมืองใหญ่ เพราะมีแต่เกมการเมือง อีกทั้งประสบการณ์ทำงานที่สั่งสมจนมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในคนทุกเพศทุกวัย เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

“คุณชาย” เพ้อฝัน ปชป.ส่งชิงผู้ว่าฯกทม.รอบ 2

BangkokElection2013 (วันที่ 20 ธันวาคม 2555) – ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานปล่อยแถวรณรงค์ป้องกันอัคคีภัย ที่ ลานพระบรมรูปทรงม้า ถึงการลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ว่า ขณะนี้ตนเองไม่มีความกังวล แม้ทางพรรคประชาธิปัตย์จะยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ ว่า จะให้ตนเองลงสมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.เป็นสมัยที่ 2 ในนามพรรคประชาธิปัตย์ หรือไม่ หรือทางพรรคมีรายชื่อใครอย่างไรบ้างตนเองไม่เคยถามเพราะถือว่าไม่ใช่เรื่อง

   ต่อข้อถามที่ว่า สมมติพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ส่งลงสมัคร ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ตนเองไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้น แต่ก็ไม่ได้กดดัน เร่งรัด ยื่นคำขาดแม้แต่นิดเดียว พรรคอยากจะทำอะไรก็ทำไป เพราะขณะนี้ตนเองต้องบริหารจัดการงาน กทม.อย่างเต็มที่

      

       “ถ้าสมมติว่า ไฟไหม้บ้านท่าน ท่านก็คงไม่คิดว่าไฟไหม้จะต้องไหม้บ้าน ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้น ดังนั้น ผมก็ตอบไม่ได้ เพราะผมคิดว่าพรรคประชาธิปัตย์จะไฟไหม้ ผมมั่นใจทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมทำลงไปด้วยความบริสุทธิ์ใจท่ามกลางอุปสรรคนานัปการ ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง แต่หากพรรคไม่ส่ง ก็ต้องมีเหตุผลที่ดี ผมก็รับฟังได้ ไม่มีปัญหา แต่ก็อยากให้เคาะก่อน 17 ก.พ.นี้” ผู้ว่าฯ กทม.กล่าว

      

       ผู้สื่อข่าวถามด้วยว่า จะลาออกก่อนครบวาระในวันที่ 10 ม.ค.หรือไม่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ตนเองขอสงวนว่าจะลาออกก่อนวันที่ 10 ม.ค.ต้องดูฤกษ์ยามที่เหมาะสม และแม้ตนเองจะลาออก 1-2 วันก่อนหน้า ก็คงไม่ทำให้ใครเดือดร้อน หากเป็นฤกษ์ยามที่ดี ทั้งนี้ นโยบายที่จะใช้ในการหาเสียงเลือกตั้งตนเองคิดไว้หมดแล้ว แต่ยังไม่เปิดเผยต้องคุยกับทางพรรคก่อน เพราะจะต้องร่างร่วมกัน

“ยิ่งลักษณ์” เปรย มีแคนดิเดต หลายคนเหมาะสมเป็นผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. รอมติ กบห.พรรค

BangkokElection2013 (วันที่ 20 ธันวาคม 2555) -  น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนเดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน - อินเดีย ที่กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย พร้อมกับคณะ ระหว่างวันที่ 20-22 ธ.ค. นี้ โดยกล่าวถึงแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า ขณะนี้มีข้อเสนอจากหลายฝ่าย อย่างเช่นกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วย ที่จะให้มีการทำประชามติ ซึ่งก็เป็นอีกข้อเสนอหนึ่ง ที่ต้องรับฟัง

ขณะที่ กรณีการคัดเลือกตัวบุคคลลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในส่วนของพรรคเพื่อไทยว่า ขณะนี้ ยังไม่ได้ข้อสรุปในเรื่องดังกล่าว แต่ยอมรับว่ามีแคนดิเดต หลายคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสม รวมถึง พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถแต่ทั้งหมดจะต้องรอคณะกรรมการบริหารพรรคเป็นผู้พิจารณาในขั้นตอนสุดท้าย

ผ่านด่านแรก ศาลตัดสิน กทม. ชนะคดีไม่ต้องจ่ายค่าดูแลรถดับเพลิง บ.เทพยนต์ฯ เตรียมสู้ต่อถึงศาลอุทธรณ์

BangkokElection2013 (วันที่ 20 ธันวาคม 2555) - รายงานข่าวจากศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) แจ้งว่า สืบเนื่องจากกรณีทุจริตในโครงการจัดซื้อรถและ เรือดับเพลิงของกรุงเทพมหานคร ที่ส่งผลให้มีการฟ้องร้องเป็นคดีเกี่ยวพันต่อกรณีดังกล่าวอีกหลายคดี นั้น ปรากฏว่า ในส่วนของคดีเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่ง ที่ทางบริษัทเทพยนต์ แอโรโมทีฟ อินดัสตรีส์ จำกัด เป็นโจทก์ยื่นฟ้องกรุงเทพมหานคร (กทม.) เรียกค่าเสียหายในการดูแลบำรุงรักษารถดับเพลิงลอตแรกที่มาถึงประเทศไทยและจอดอยู่ที่ อู่ของบริษัท ที่บริเวณถนนบางกรวย-ไทรน้อย จ.นนทบุรี ตั้งแต่ปี 2549 ปรากฏว่าศาลชั้นต้นได้พิจารณาพิพากษาคดีแล้ว เมื่อวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมาให้ยกฟ้อง โดยกทม.ไม่ต้องรับผิดชอบชำระค่าเสียหายจำนวน 332.08 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 รวมเป็นเงินกว่า 336 ล้านบาท ตามที่บริษัทเทพยนต์ ได้ฟ้องต่อศาล

ทั้งนี้คำพิพากษาของศาลแพ่งสรุปได้ว่า ตามที่กทม. ได้ลงนามข้อตกลงซื้อขายรถดับเพลิงและอุปกรณ์กับ บริษัทสไตเออร์ เดมเลอร์ พุค สเปเชียล ฟาห์รซอยก์ ออสเตรีย และได้จัดส่งรถและอุปกรณ์จำนวน 176 คัน มาถึงท่าเรือแหลมฉบัง และกทม.ได้รับรถดับเพลิงทั้งหมด ส่งมอบให้บริษัทเทพยนต์ แอโรโมทีฟ อินดัสตรีส์ จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนหลังการขายของบริษัทสไตเออร์ฯ เพื่อไปทำความสะอาด ติดสติกเกอร์ และติดวิทยุสื่อสารเพื่อเตรียมความพร้อมของรถ เรือ ดับเพลิงก่อนส่งมอบ ตามที่เป็นการปฏิบัติมา เนื่องจากบริษัทสไตเออร์ฯ ไม่มีสาขาในประเทศไทย แต่จะตั้งตัวแทนหลังการขายคือบริษัทเทพยนต์ฯ เพียงบริษัทเดียวมาตลอด ซึ่งการดำเนินการในส่วนดังกล่าวเพิ่มเติม บริษัทสไตเออร์ฯ ยินยอมและรับว่าจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด โดยศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า การที่บริษัทเทพยนต์ฯ รับรถดับเพลิงไปทำความสะอาดและออกค่าใช้จ่าย ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่หน้าที่ของบริษัทเทพยนต์ฯ แต่เป็นหน้าที่ของบริษัทสไตเออร์ฯ หากบริษัทฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือเป็นตัวแทนของบริษัทสไตเออร์ฯ ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการเช่นนั้น และการที่ กทม. ส่งมอบรถให้บริษัทเทพยนต์ฯ เป็นการเข้าใจว่าบริษัทเทพ ยนต์ฯ เป็นตัวแทนของบริษัทสไตเออร์ฯ และปฏิบัติเหมือนกับที่เคยปฏิบัติมาในการซื้อขายรถดับเพลิงกับสไตเออร์ฯ ก่อนหน้านี้ อีกทั้ง กทม. ก็ปฏิเสธมาโดยตลอดว่า ไม่เคยทำสัญญา ฝากทรัพย์ หรือมีนิติสัมพันธ์ในเรื่องฝากทรัพย์ กับบริษัทเทพยนต์ฯ กทม.จึงไม่ต้องรับผิดชำระค่าเสียหายตามที่บริษัทเทพยนต์ฯ ฟ้อง พิพากษายกฟ้อง อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางบริษัทเทพยนต์ฯ ได้อุทธรณ์คำพิพากษา และขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาลอุทธรณ์

เอ๋อเครียด! “สุขุมพันธุ์” เลื่อนเปิดนโยบายผู้ว่าฯกทม.รอบสองวันนี้ หลังพรรคไม่ชัดเจน

BangkokElection2013 (วันที่ 20 ธันวาคม 2555) -  รายงานข่าวจากฝ่ายการเมืองศาลาว่าการกทม.แจ้งว่า ในวันนี้ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. ได้ยกเลิกกำหนดการตรวจความคืบหน้าโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ และโครงการนำสายสาธารณูปโภคลงดินในกรุงเทพฯ ที่ท้องสนามหลวง ในเวลา 16.30 น. ซึ่งก่อนหน้านี้มีการเตรียมให้ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เปิดนโยบายหาเสียงผู้ว่าฯกทม.อีกครั้ง โดยใช้ชื่อว่า "สานงานต่อ ก่องานใหม่" หลังเสร็จสิ้นการตรวจงานที่ท้องสนามหลวงในเวลา 17.00 น. แต่ในช่วงเที่ยงวันเดียวกันนี้

นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯกทม.ได้ส่งข้อความทางโทรศัพท์มือถือถึงสื่อมวลชนระบุว่า "วันนี้ผู้ว่าฯเจ็บคอครับ ขอเลื่อน ไม่มีเสียง" อย่างไรก็ตามจากนี้หากมีการแถลงนโยบายของม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ อาจจะต้องมีความชัดเจนจากพรรคประชาธิปัตย์ในเรื่องตัวผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. รวมถึงต้องนำนโยบายของม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ไปหารือร่วมกับพรรคด้วย