วันศุกร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

“จารุพงศ์” เผย “พงศพัศ” เหมาะเป็นผู้ว่าฯกทม.


BangkokElection2013 (วันที่ 30 พฤศจิกายน 2555) - นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.กระทรวงมหาดไทยในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าวถึงกระแสข่าวที่พรรคจะส่ง พล.ต.อ.พงศพัศ พงศ์เจริญ เลขาธิการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.ว่า ถ้าถามถึงความเหมาะสม พล.ต.อ.พงศพัศ ต้องให้เหตุผลว่าจากการทำประชาพิจารณ์ขอความเห็นคนกรุงเทพฯ ว่าต้องการผู้ว่าฯแบบไหน พบว่าสิ่งที่คนกรุงเทพฯต้องการให้แก้ไขมากที่สุดคือปัญหาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และปัญหายาเสพติด พล.ต.อ.พงศพัศ ทำหน้าที่เลขาธิการป.ป.ส.โดยเฉพาะเชื่อว่าถ้าเข้ามาจะใช้ประสบการณ์ความรู้ความสามารถในฐานะของคนที่ทำเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมาทำหน้าที่ในตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.ได้ เรื่องความปลอดภัย พล.ต.อ.พงศพัศเคยทำเรื่องฝากบ้านไว้กับตำรวจจนเป็นสัญลักษณ์ และทำงานมาด้วยดีตลอด ตนคิดว่าถ้ามาจริงจะเป็นคนหนึ่งที่คนกรุงเทพฯคาดหวังจะให้มาแก้ไขปัญหาของกรุงเทพฯในภาพรวม และทำให้กรุงเทพฯเป็นเมืองที่น่าอยู่ได้

“เสรีพิศุทธ์” เย้ยเพื่อไทย ไม่มีคนเหมาะตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.


BangkokElection2013 (วันที่ 30 พฤศจิกายน 2555) - พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. นำทีมงานกว่า 50 ชีวิต ประกอบพิธีบวงสรวงดวงวิญญาณสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ภายหลังที่นำคณะเดินทางไปกราบไหว้ขอพรต่อศาลหลักเมืองกรุงรัตนโกสินทร์ เขตพระนครในช่วงเช้าวันเดียวกัน ก่อนลงพื้นที่แจกเอกสารแนะนำตัวและพูดคุยกับประชาชนในย่านวงเวียนใหญ่ คลองสาน ลาดหญ้า และสำเหร่

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวถึงกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยเตรียมส่งพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ว่า เป็นสิทธิของพรรคเพื่อไทยที่จะเลือกใครมาเป็นผู้สมัครในนามพรรคไม่ว่าบุคคลผู้นั้นจะเป็นสมาชิกพรรคหรือไม่ก็ตาม ทำให้เห็นว่าขณะนี้พรรคเพื่อไทยกำลังประสบปัญหาในพรรคไม่มีคนที่มีความรู้ความสามารถเหมาะสมกับตำแหน่งดังกล่าวจริง

“เทพไท” ร้อน จี้ “พงศพัศ” ประกาศให้ชัดลงแข่งชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.หรือไม่


BangkokElection2013 (วันที่ 30 พฤศจิกายน 2555) - ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย คาดการณ์ว่า พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. และเลขาธิการ ป.ป.ส. จะได้รับการอนุมัติให้ลงสมัครผู้ว่าฯกทม. ในนามพรรคเพื่อไทย ว่านั้น ถือกระแสข่าวที่มีมานาน และหากว่าพรรคเพื่อไทยตัดสินใจส่ง พล.ต.อ.พงศพัศลง ทำไมไม่ประกาศตัวให้ชัดเจน

ทั้งนี้ ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ มีผู้แสดงเจตจำนงในการลงสมัครผู้ว่าฯกทม. เพียง 1 ท่าน คือ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. และขณะนี้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ทำหนังสือไปยังสาขาพรรคใน กทม. ให้ประชุม และเลือกผู้ที่เหมาะสม เพื่อส่งรายชื่อมายังคณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัคร ที่มีนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการที่ปรึกษาพรรค เป็นประธาน ซึ่งคาดว่ารายชื่อผู้สมัครจะชัดเจนในกลางเดือนธันวาคมนี้

เพื่อไทยเคาะแล้ว ส่ง "พงศพัศ" ชิงผู้ว่าฯกทม.


BangkokElection2013 (วันที่ 30 พฤศจิกายน 2555) - ผู้สื่อข่าวรายงานว่าความคืบหน้าในการคัดเลือกผู้สมัครลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ในนามพรรคเพื่อไทย ล่าสุดได้ตัดสินใจจะส่ง พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร. และเลขาธิการ ปปส. ลงรับเลือกตั้ง โดยการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้พรรคให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี อาสาที่จะลงมาดูแลในภาพรวมทั้งด้านนโยบายจนถึงการคัดเลือกตัวผู้สมัครด้วยตนเองด้วย เพื่อที่จะได้ทำงานสอดรับกันระหว่างนโยบายของรัฐบาลและนโยบายของกทม. ส่วนเหตุผลที่พรรคเลือกพล.ต.อ.พงศพัศนั้น เนื่องจากทั้งพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและน.ส.ยิ่งลักษณ์ไว้วางใจและให้ความเห็นชอบ โดยจะชูจุดขายตรงที่พล.ต.อ.พงศ์พัศมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของประชาชน และมีผลงานด้านสังคมโดยเฉพาะการปราบปรามยาเสพติด ที่สอดรับกับนโยบายของพรรคเพื่อไทย ขณะที่นโยบายที่จะใช้หาเสียงนั้นจะออกนโยบายมาใหม่เพื่อชาวกทม.โดยเฉพาะ ซึ่งจะเน้นการแก้ไขปัญหาจราจร ด้านสังคม และการปราบปรามยาเสพติดที่เป็นจุดแข็งของพล.ต.อ.พงศพัศ

หลังเสร็จสิ้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลแล้ว พรรคมีแผนที่จะเปิดตัวพล.ต.อ.พงศพัศอย่างเป็นทางการ แม้ว่าขณะนี้จะยังมีตำแหน่งสำคัญอยู่ 2 ตำแหน่งคือ รองผบ.ตร.และเลขาธิการปปส.ด้วยก็ตาม โดยเร็วๆ นี้พรรคจะแจ้งให้พล.ต.อ.พงศพัศลาออกจากทั้ง 2 ตำแหน่งดังกล่าว ภายใต้สัญญาใจเบื้องต้นกับแกนนำพรรคว่า หากพลาดท่าพ่ายแพ้ในสนามเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทยจะผลักดันให้อยู่ในตำแหน่งเดิมหรือมอบตำแหน่งบอร์ดสำคัญในองค์กรรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานของรัฐให้เพื่อเป็นการทดแทน ทั้งนี้ พรรคเตรียมจะติดตั้งบิลบอร์ดขนาดใหญ่กว่า 200 จุดทั่วกทม. พร้อมทั้งสติ๊กเกอร์ที่กระจายไปให้กับส.ส. ส.ก. และส.ข.ของพรรคเพื่อลงพื้นที่ช่วยเหลือพล.ต.อ.พงศพัศในการหาเสียงในเร็วๆ นี้อีกด้วย อีกทางหนึ่งไว้แล้ว โดยใช้แนวคิด "รัฐบาลเพื่อไทย พร้อมรับใช้คนกทม."

วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

กำหนดปิดปรับปรุงระบบคอมฯ สนง.เขต ทั่วกรุงเทพฯ


BangkokElection2013 (วันที่ 29 พฤศจิกายน 2555) - สำนักงานเขตทั่ว กทม. ทยอยปิดให้บริการงานทะเบียนชั่วคราว 21พ.ย.-20 ธ.ค. นี้ เปิดช่องกรมการปกครองติดตั้งคอมพิวเตอร์ใหม่

นายศุภพงษ์ กฤษณพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักงานปกครองและทะเบียน กทม. แจ้งว่า สำนักบริหารการ ทะเบียน กรมการปกครอง จะทำการติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ตามโครงการจัดทำระบบให้บริการทางด้านทะเบียนและบัตรประจำตัวประชาชนแบบใหม่ ให้สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ย.- 20 ธ.ค.55 ทั้งนี้ สำนักงานเขตจะต้องหยุดให้บริการงานด้านทะเบียนและบัตรประจำตัวประชาชนในระหว่าง ดำเนินการชั่วคราว ดังนี้

เขตคลองสามวา มีนบุรี หนองจอก พญาไท และเขตดินแดง หยุดให้บริการ ตั้งแต่เวลา 15.00 น. ของวันที่ 30 พ.ย. ถึงเวลา 12.00 น. ของวันที่ 1 ธ.ค.
เขตห้วยขวาง บางบอน บางซื่อ บางพลัด และเขตคลองสาน หยุดให้บริการ ตั้งแต่เวลา 15.00 น. ของวันที่ 3 ธ.ค. ถึงเวลา 12.00 น. ของวันที่ 4 ธ.ค.
เขตธนบุรี บางกอกใหญ่ บางคอแหลม และเขตยานนาวา หยุดให้บริการตั้งแต่เวลา 15.00 น. ของวันที่ 6 ธ.ค. ถึงเวลา 12.00 น. ของวันที่ 7 ธ.ค.
เขตวังทองหลาง บางขุนเทียน หนองแขม สาทร และ เขตพระโขนง หยุดให้บริการตั้งแต่เวลา 15.00 น. ของวันที่ 11 ธ.ค. ถึงเวลา 12.00 น. ของวันที่ 12 ธ.ค.
เขตบางเขน บางกอกน้อย ดุสิต คันนายาว และเขต สายไหม หยุดให้บริการตั้งแต่เวลา 15.00 น. ของวันที่ 13 ธ.ค. ถึงเวลา 12.00 น. ของวันที่ 14 ธ.ค.
 เขตราชเทวี พระนคร คลองเตย จตุจักร และเขตปทุมวัน หยุดให้บริการตั้งแต่เวลา 15.00 น. ของวันที่ 16 ธ.ค. ถึงเวลา 12.00 น. ของวันที่ 17 ธ.ค.

เพื่อไทย เคาะผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. พร้อมเปิดตัว


BangkokElection2013 (วันที่ 29 พฤศจิกายน 2555) -  ร.ท.หญิงสุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจและเข้าสู่ช่วงปิดสมัยประชุมรัฐสภา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ ส.ส.และผู้สมัครส.ส.พรรคเพื่อไทยลงพื้นที่ไปชี้แจง ทำความเข้าใจกับประชาชนในประเด็นต่างๆ ที่ประชาชนยังสงสัยเกี่ยวกับการอภิปราย โดยเฉพาะคืนวันสุดท้ายที่นายจุรินทร์  ลักษณวิศิษฎ์ ประธานวิปฝ่ายค้านลักไก่โจมตีนโยบายรัฐบาลโดยที่อยู่นอกเหนือญัตติอภิปรายและยื่นถอดถอน เช่น นโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาท กล่าวหาในช่วงสรุปเพื่อปิดอภิปราย รัฐบาลจึงไม่มีโอกาสชี้แจงซึ่งอาจทำให้ประชาชนเข้าใจผิด นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังได้มอบหมายให้รัฐมนตรี โดยเฉพาะผู้ที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจอธิบายต่อสังคมในข้อกล่าวหาของพรรคฝ่ายค้าน

รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ยังกล่าวว่า นอกจากนี้กิจกรรมสำคัญของพรรคหลังจากนี้คือการรณรงค์เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ซึ่งขณะนี้นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายให้กับโซนต่างๆนำไปปฏิบัติ ภายใต้สโลแกนที่ว่า พรรคเพื่อไทยพร้อมรับใช้ชาว กทม. ส่วนตัวผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.นั้น พรรคมีตัวเลือกและพร้อมเปิดตัว เพียงแค่รอทีมยุทธศาสตร์ของพรรคพิจารณาเวลาที่เหมาะสมและพรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญกับเรื่องนโยบายเป็นอันดับแรก จึงมีความมั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะประสบผลสำเร็จ

กทม.กระทงกว่า 9 แสนใบ กระทงโฟมลด 14.33% เขตจอมทองแชมป์กระทงมากสุด น้อยสุดคือ เขตราชเทวี


BangkokElection2013 (วันที่ 29 พฤศจิกายน 2555) -  นายมานิต เตชอภิโชค รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า กทม. โดยสำนักสิ่งแวดล้อม สำนักระบายน้ำและสำนักงานเขต ได้ดำเนินการจัดเก็บกระทงตามแม่น้ำเจ้าพระยา ลำคลอง และบึงในสวนสาธารณะต่างๆ ทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ หลังจากประชาชนลอยกระทงเนื่องในเทศกาลลอยกระทงที่ผ่านมา

ทั้งนี้ มีการจัดเก็บตั้งแต่หลังเที่ยงคืนจนถึงช่วงเช้าที่ผ่านมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พบว่า ปริมาณขยะสูง 4,000 ตัน โดยปีนี้มียอดกระทงสูงถึง 916,354 ใบ ซึ่งสูงกว่าปี 2553 ถึง 2 เท่า ขณะที่ในปี 2554 มียอดกระทงเพียง 322,779 ใบ โดยกระทงที่พบส่วนใหญ่ทำจากต้นกล้วยและใบตอง จำนวน 693,976 ใบ กระทงโฟม 131,338 ใบ และวัสดุอื่นๆ ที่ผลิตจากธรรมชาติ 91,040 ใบ สำหรับสถิติกระทงที่ทำจากโฟมลดลง ร้อยละ 14.33 ส่วนกระทงที่ทำจากกล้วยและใบตอง เพิ่มขึ้นร้อยละ 75.73 ขณะที่กระทงที่ทำจากวัสดุอื่นๆ เช่น ขนมปัง เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.96

ในส่วนของเขตที่มีกระทงมากที่สุด คือ เขตจอมทอง พบมีจำนวนกระทงมากถึง 55,000 ใบ รองลงมาคือ เขตบางขุนเทียน 44,590 ใบ และเขตลาดกระบัง 42,374 ใบ ส่วนเขตที่พบกระทงน้อยที่สุด 370 ใบ คือ เขตราชเทวี โดยกระทงทั้งหมดที่เก็บได้ กทม.จะนำไปไว้ที่บ่อพักขยะ 3 แห่ง ได้แก่ อ่อนนุช ท่าแร้ง และหนองแขม เพื่อนำไปดำเนินการฝั่งกลบต่อไป.

ชาวบ้านโว้ย! กทม.ปล่อยน้ำเสีย ทำสัตว์น้ำป่าชายเลนตายระนาว


BangkokElection2013 (วันที่ 29 พฤศจิกายน 2555) - ชุมชนคลองแสนตอ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร (กทม.) โครงการสื่อสุขภาวะคนชายขอบ สำนักงานการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้นำเครือข่ายอนุรักษ์ลุ่มน้ำสาวะวิน จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 10 คน ลงพื้นที่สำรวจป่าโกงกาง พื้นที่อ่าวไทยตอนใน หรือรอบอ่าวตัว ก

นายจรัล อ่วมสะอาด ประธานชุมชนแสนตอ และตัวแทนจากเครือข่ายอนุรักษ์ทะเล กล่าวระหว่างการลงพื้นที่ว่า ตอนนี้ทะเลบางขุนเทียนกำลังวิกฤตหนัก โดยชุมชนในเขตบางขุนเทียน ซึ่งเป็นเขตเดียวของ กทม.ที่ติดทะเลนั้น เป็นพื้นที่ป่าโกงกางที่ในอดีตเคยสะอาดและอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชและสัตว์น้ำกร่อย การจราจรในชุมชนอาศัยการเดินเรือของชาวบ้าน โดยคนในชุมชนจะยึดอาชีพประมงเป็นหลัก ทั้งหาหอย ปลา และอาศัยการทำวังกุ้ง ธรรมชาติโดยสร้างประตูน้ำเข้าออกทะเล จากไม้ไผ่แล้วให้กุ้งหอยทะเลไหลเข้ามาตามทางน้ำ ซึ่งสัตว์กลุ่มนี้จะกินแพลงตอนเป็นอาหาร ชาวบ้านอนุรักษ์ป่าลุ่มน้ำโดยการสร้างแนวไม้ไผ่ เพื่อให้เกิดตะกอนเลน ให้มีดินอยู่ด้านล่างและพันธุ์ไม้ที่สำคัญ อย่างต้นแสมดำ แสมขาว และต้นโกงกาง ได้เจริญเติบโตอย่างธรรมชาติ ให้สัตว์ได้มีที่อยู่และขยายพันธุ์ตามเวลาที่เหมาะสม ซึ่งทุกคนก็ใช้ชีวิตอย่างปกติสุข

"ระยะหลังชาวบ้านในชุมชน พบว่าปัญหาน้ำเสียเริ่มเกิดขึ้นในชุมชนอย่างต่อเนื่อง โดยน้ำเน่าเสียถูกปล่อยมาจากตัวเมือง กทม. ซึ่งหลายครั้งที่ชาวบ้านร้องเรียนเข้าไปเพื่อให้ กทม.ได้มีการบำบัดก่อนปล่อยลงสู่ทะเล แต่ก็ไม่ได้รับการแก้ปัญหา เพราะไม่มีหลักฐานยืนยันถึงผลกระทบที่ชัดเจน ปัญหาน้ำเน่าเสียในชุมชนจะนานประมาณ 2-3 วัน แต่เมื่อวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมานั้น ชาวบ้านพบว่าน้ำเน่าเสียอยู่นานกว่า 20 วัน แสดงว่าสถานการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมแย่ลงทุกที ซึ่งชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำเน่าเสียนั้นไม่ใช่แค่ชุมชนแสนตอเท่านั้น แต่ยังรวมถึงชุมชนใกล้เคียงในเขตบางขุนเทียนที่มีพื้นที่ติดทะเลด้วย ได้แก่ ชุมชนศรีกุมาร ชุมชนคลองพิทยาลงกรณ์" นายจรัลกล่าว

นายจรัลกล่าวว่า ปัญหาที่พบจากกรณีนี้คือ กุ้งก็เริ่มตาย หอยก็ขนาดเล็กลง และบางส่วนตาย เพราะน้ำเน่าหมด จึงอยากให้ กทม.เข้าใจและช่วยแก้ปัญหาจุดนี้บ้าง เพราะชาวบ้านพยายามอย่างมากในการอนุรักษ์ป่าแบบธรรมชาติ เพื่อรักษาทรัพยากรที่มีให้คงอยู่ต่อไป เมื่อสถานการณ์เริ่มแย่ลง ชาวบ้านได้รวมตัวกันตั้งวอร์รูมของชุมชน 4 จุด เพื่อเปลี่ยนเวรยามรายงานสถานการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมในชุมชน ด้วยตนเอง โดยจะมีการสำรวจพื้นที่น้ำเสียให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ขณะนี้ทางเครือข่ายอนุรักษ์ทะเล ได้ทำหนังสือถึงสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เพื่อของบประมาณจัดซื้อเครื่องตรวจวัดคุณภาพน้ำด้วย แต่ยังไม่มีการตอบรับใด ๆ

วันพุธที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

กทม. เตรียมใช้อีก 34 ล้าน ปิดซ่อมสะพานไทย-เบลเยี่ยม 8 เดือนเริ่มธค.


BangkokElection2013 (วันที่ 28 พฤศจิกายน 2555) -  นายประสาร พิทักษ์วรรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้างและบูรณะ สำนักการโยธา กทม. เปิดเผยความคืบหน้าโครงการปิดซ่อมบำรุงสะพานข้ามแยกไทย-เบลเยี่ยม ถนนพระราม 4 ว่า จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ส่งรายงานสรุปผลการสำรวจความเสียหายของตัวสะพานมาให้แล้ว พบความเสียหายส่วนใหญ่เป็นบริเวณรอยต่อสีทาตัวสะพานและระบบระบายน้ำ ซึ่งจะมีการปรับปรุงใหม่ทั้งหมด โดยหลังจากซ่อมแซมเสร็จแล้ว สะพานโฉมใหม่จะแตกต่างจากของเดิมที่ไม่ได้บูรณะมากว่า 20 ปี จะมีแบริเออร์ ที่เป็นวัสดุอะลูมิเนียม พร้อมทั้งติดตั้งไฟส่องสว่างบนสะพานและด้านล่างด้วย ซึ่งการปรับปรุงจะใช้งบประมาณประมาณ 34 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาร่วมกับผู้รับเหมา เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถปิดปรับปรุงซ่อมแซมได้ ภายในกลางเดือนธ.ค.นี้ และจะใช้เวลาซ่อมแซม 240 วัน จึงจะแล้วเสร็จ

นายประสาร กล่าวด้วย นอกจากนี้ สำนักการโยธา ยังมีแผนซ่อมแซมและปรับปรุงสะพานต่างๆ ที่อยู่บนถนนเพชรบุรี อีก 3 สะพาน ประกอบด้วย

1.สะพานลอยข้ามแยกประตูน้ำ
2.สะพานลอยข้ามแยกราชเทวี
3.สะพานลอยข้ามแยกยมราช

อย่างไรก็ตามขณะนี้อยู่ระหว่างประเมินราคาและทำการออกแบบสะพานต่อไป โดยคาดว่าจะสามารถเปิดประมูลหาตัวผู้รับเหมาได้ ทั้ง 3 สะพาน ภายในเดือน ก.พ.2556 ก่อนเริ่มงานจริงในเดือนพ.ค.-มิ.ย.2556 โดยจะใช้เวลาดำเนินการปรับปรุงและซ่อมแซม 360 วัน

ระทวย ! “สภา กทม.” เลื่อน ! จ่ายเงินเยียวยาน้ำท่วม 5,000 ล.


BangkokElection2013 (วันที่ 28 พฤศจิกายน 2555) - นายพิพัฒน์ ลาภปรารถนา ประธานสภากรุงเทพมหานคร ประชุมสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 2556 ตามที่คณะผู้บริหาร กทม. ขอความเห็นชอบให้กรุงเทพมหานคร นำเงินจ่ายขาดเงินสะสมกรุงเทพมหานครจำนวน 5 พันล้านบาท เพื่อนำไปแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะการจ่ายเงินเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปี 2554 จำนวน 1,142 ล้านบาท รวมถึงการนำไปบริหารจัดการตามภารกิจด้านการระบายน้ำในโครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำคลองบางซื่อ จากคลองลาดพร้าวถึงแม่น้ำเจ้าพระยา และการปรับปรุงถนนคุ้มเกล้า เขตมีนบุรี และเขตลาดกระบัง

นอกจากนี้ ยังนำไปใช้ในการบริหารจัดการเกี่ยวกับบุคลากรทางด้านการศึกษาในสังกัด กทม. อีกประมาณ 3 พันล้านบาท ซึ่งวาระดังกล่าวในที่ประชุมสภา กทม. มีมติเห็นชอบให้คณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร นำไปพิจารณาให้เกิดความรอบคอบแล้วนำกลับมา เพื่อขอความเห็นชอบจากที่ประชุมสภาภายใน 45 วันอีกครั้ง

ด้าน นายสุทธิชัย วีระกุลสุนทร สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ได้เสนอญัตติขอให้ กทม. ตั้งคณะกรรมการวิสามัญศึกษาการจัดวางผังเมืองเชิงรุก เนื่องจากปัจจุบันโครงสร้างพื้นฐานไม่เพียงพอต่อการรองรับการขยายตัวของเมือง ฉะนั้นควรให้มีการพิจารณารูปแบบผังเมืองให้เหมาะสมกับกรุงเทพมหานคร และพิจารณาจัดระบบผังเมืองนำร่องในเขตพื้นที่ชั้นนอก

ทั้งนี้ ที่ประชุมสภามีมติเห็นชอบในหลักการ พร้อมตั้งคณะกรรมการวิสามัญศึกษาการจัดวางผังเมืองเชิงรุกของ กทม. ด้วย

เลื่อนอีก ! เปิดรถไฟฟ้าฝั่งธนฯ 2 สถานี เหตุไม่มีความพร้อมสมบูรณ์


BangkokElection2013 (วันที่ 28 พฤศจิกายน 2555) - นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าบีทีเอสส่วนต่อขยายสายสีลม ช่วงตากสิน-เพชรเกษม ว่า จากแผนเดิมที่ กทม.จะเปิดให้ทดลองให้ประชาชนใช้บริการฟรี 2 สถานี คือ สถานีโพธิ์นิมิตร และสถานีตลาดพลู ในวันที่ 5 ธ.ค. 55 ไปจนถึงวันที่ 15 พ.ค. ปี 56 นั้น มีความจำเป็นจะต้องเลื่อนการทดลองให้บริการออกไปก่อน

โดยคาดว่าจะเปิดทดลองให้บริการได้ในช่วงกลางเดือน ม.ค. 56 เนื่องจากวิศวกรอิสระ หรือ ไอซีอี (I.C.E) เข้าตรวจสอบความพร้อมทั้งเรื่องโครงสร้างสถานีและความปลอดภัยรวมถึงการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนของสถานีแล้วพบว่ายังไม่มีความพร้อมสมบูรณ์พอที่จะเปิดให้บริการแก่ประชาชนได้อย่างปลอดภัย

ทั้งนี้ ในส่วนของอีก 2 สถานีที่เหลือ คือ สถานีวุฒากาศ และบางหว้า ที่มีแผนจะก่อสร้างให้แล้วเสร็จและเปิดให้บริการในวันที่ 12 ส.ค. 56 นั้น ไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่การก่อสร้างนั้นยังต้องมีการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เนื่องจาก รฟม.อยู่ระหว่างการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ที่จะต้องก่อสร้างในพื้นที่ทับซ้อนกัน หาก รฟม.ก่อสร้างแล้วเสร็จได้เร็ว กทม.ก็จะก่อสร้างส่วนต่อขยายอีก 2 สถานี ได้เร็วเช่นเดียวกัน.

“ม.ล.ปนัดดา” เสนอเปลี่ยนชื่อตำแหน่ง “ผู้ว่าฯ กทม.” เป็น “นายกเทศมนตรีกรุงเทพมหานคร”


BangkokElection2013 (วันที่ 28 พฤศจิกายน 2555) - ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง และในฐานะประธานหอสมุดสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เปิดเผยว่า จากการเป็นอาจารย์พิเศษ ณ สถาบันการศึกษาระดับสูงหลายแห่ง หลายฝ่ายมีข้อพิจารณาถึงชื่อตำแหน่งผู้บริหารทางการเมืองของกรุงเทพมหานคร สมควรที่จะปรับเปลี่ยนจาก ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (Governor of Bangkok Metropolitan)” เป็น นายกเทศมนตรีกรุงเทพมหานคร (Lord Mayor of Bangkok Metropolitan)” ในสมัยการเลือกตั้งที่จะมาถึงนี้

สาเหตุที่ต้องปรับเปลี่ยนเพื่อช่วยเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจทางการศึกษาได้ถูกต้องว่าประเทศไทยมีรูปแบบการบริหารราชการส่วนภูมิภาค ซึ่งประกอบด้วย 76 จังหวัด ไม่ใช่ 77 จังหวัดตามที่มีการกล่าวกันอย่างผิด ๆ กับอีกทั้งชื่อของตำแหน่งที่เป็นภาษาอังกฤษ คือ Lord Mayor ยังถือเป็นเกียรติต่อผู้บริหาร กทม. ซึ่งมาจากการเลือกตั้ง เช่นเดียวกับ Lord Mayor of the City of London (นายกเทศมนตรีมหานครลอนดอน) Mayor of New York City (นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก) และนครสำคัญแห่งอื่น ๆ ของโลก

ทั้งนี้ตั้งแต่อดีตตราบจนปัจจุบัน คำว่า ผู้ว่าราชการจะสื่อความหมายถึงบุคคลผู้เป็นข้าราชการประจำ (Civil Servant) ซึ่งรูปแบบการบริหารจัดการของ กทม. จัดเป็นรูปแบบการปกครองท้องถิ่น(Local Administration) เช่นเดียวกับเมืองพัทยา อบจ. เทศบาล และอบต. ซึ่งนักเรียนนักศึกษามีความสับสนในการทำความเข้าใจ และจำแนกแยกแยะได้ไม่ถูกต้องระหว่างรูปแบบการบริหารราชการส่วนภูมิภาค คือ ตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด นายอำเภอ แรงงานจังหวัด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ฯลฯ

ซึ่งต่างทำหน้าที่ดำรงความเป็นหนึ่งประเทศเดียวกัน และการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น คือ ตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. นายกเมืองพัทยา นายก อบจ. นายกเทศมนตรี และนายก อบต. ฯลฯ การพิจารณาปรับเปลี่ยนชื่อตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. เพื่อให้สอดคล้องกับรูปแบบการบริหารราชการส่วนท้องถิ่นจะก่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจอย่างถูกต้องและเหมาะสม

“โต้ สุหฤท” ประกาศผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว ลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.


"โต้ สุหฤท" ออกมาประกาศผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว @Suharit ว่า เขาพร้อมจะลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร ที่จะมีการเลือกตั้งในปีหน้านี้แล้ว พร้อมแจกแจงคุณสมบัติของตนเองเสร็จสรรพ แถมยังบอกว่า กำลังร่างนโยบายอยู่ ซึ่งเตรียมเปิดเผยต่อสาธารณชนเร็ว ๆ นี้ 



สำหรับ "โต้ สุหฤท สยามวาลา" เป็นทายาทรุ่นที่ 4 ที่ต้องดูแลธุรกิจเครื่องเขียน ดี เอช เอ สยามวาลา (DHA SIAMWALLA) ซึ่งก่อตั้งมานานนับศตวรรษตั้งแต่สมัยคุณทวดชาวอินเดีย ขณะเดียวกัน เขาก็รักในดนตรีแนวอิเล็กทรอนิกส์ จึงทำงานเป็นดีเจแนว Electro Minimal Progressive house มานานกว่า 15 ปีแล้ว 

โต้ สุหฤท โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ว่า " ผมมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ครับ ในการที่จะขอลงสมัครเป็นผ้ว่ากรุงเทพมหานคร เชิญชมครับ

            1. ชายไทยเชื้อสายอินเดีย อายุ 45 ปี

            2. เชื่อว่าการแต่งตัวแปลกของผมไม่เกี่ยวกับความสามารถทางมันสมอง

            3. ไม่มีนโยบายหาเสียง มีแต่สิ่งที่อยากทำให้คนกรุงเทพ ถ้าชอบก็ขอเสียงให้ผม เพราะผมก็อยู่กรุงเทพ

            4. มาตัวคนเดียวครับ ไม่มีเส้นสายใด ๆ ไม่มีพรรค

            5. มีความเชื่อส่วนตัวว่า คนตั้งแต่อายุ 40 ปีขึ้นไป ถึงเวลาทำอะไรให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสังคมได้แล้ว

            6. ผมมีอาชีพเป็น MD บริษัท ดี เอช เอ สยามวาลา จำกัด ขายเครื่องเขียนครับ

            7. ผมจะไม่ลบรูปทั้งหมดของผมใน Facebook เพื่อให้ท่านได้เห็นตัวตนก่อนตัดสินใจ

            8. ถ้าผิดระเบียบแม้แต่ข้อเดียวในการสมัคร ผมจะเลือกไม่ลงสมัครแทน

            9. ผมมีอดีตที่ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง แต่ผมก็เป็นคนคนหนึ่งที่ไม่ได้ทำถูกตลอดเวลา

            10. ผมมีความตั้งใจจริง ถ้าทำไม่ได้ที่จะซื่อสัตย์สุจริตก็ไม่ทำ

            11. เชื่อว่าในวงการราชการยังมีคนดีจำนวนมาก ถ้าผมขอความช่วยเหลือเขาอย่างจริงใจ

            12. นโยบายกำลังร่างอยู่ อย่าตกใจนะครับ เพราะมันจะไม่เหมือนเดิม โปรดติดตามนะครับ ผมอยากทำจริง ๆ ครับ"


            พ่อมดอิเล็กทรอนิกส์ ก็ได้เผยเหตุผล 10 ข้อ ว่าทำไมเขาถึงตัดสินใจลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.  


           
1. สุหฤทคิดว่า ตัวเองควรจะเริ่มหยุดบ่นและลุกขึ้นมาทำ ชีวิตคนเราต้องเริ่มต้นด้วยการลงมือทำ มิใช่หลบอยู่ข้างหลังกำแพง 

            2. สุหฤทคิดว่า การได้ทำกับทำได้ต่างกัน การได้ทำและทำได้ คือจุดประสงค์สูงสุดของการลงสมัครครั้งนี้ แต่ทำได้สำเร็จหรือไม่ ผมตัดสินไม่ได้

            3. สุหฤทคิดว่า กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีความสุขได้ เรามีเสน่ห์มาก ๆ เพียงแต่อยากจะลุกขึ้นมาแล้วทำให้สำเร็จ กรุงเทพมันสวยมากว่ะ

            4. สุหฤทเชื่อว่า ไม่ต้องเก่งทุกเรื่อง แต่ต้องอยู่ห้อมล้อมคนที่เก่งเพื่อผลักดันฝัน และผมก็เชื่ออีกเช่นกันว่า เราไม่ได้โง่ทุกเรื่อง

            5. สุหฤทเชื่อว่า เมื่อถึงอายุหนึ่งในชีวิต เราต้องลุกขึ้นมาทำเพื่อสังคม เราเลือกได้และสังคมจะต้อนรับเราถ้าเราจริงใจ

            6. สุหฤทเชื่อมั่นว่า ไม่มีใครในโลกที่จะมีคนรัก 100 % และสุหฤทก็เชื่อว่าตัวเองไม่ได้มีคนเกลียด 100% ถ้าเราจริงใจ

            7. สุหฤทเบื่อความขัดแย้ง แต่อยู่ได้บนความขัดแย้ง ไม่เคยเห็นใครเป็นศัตรู แต่ถ้าเขาเห็นเราเป็นศัตรู เราเศร้า

            8. สุหฤทเชื่อที่พ่อบอกว่า จงเป็นปลาแซลมอนที่ว่ายทวนน้ำ เหนื่อยอย่างแสนสาหัส เพื่อสัมผัสน้ำที่บริสุทธิ์สดชื่นกว่าด้านล่าง

            9. สุหฤทเชื่อว่า คนกรุงเทพฯ ทุกคนมีฝันเป็นของตัวเอง สุหฤทเชื่อว่าคนกรุงเทพฯ ต้องเป็นคนสร้างเมืองให้สวยงาม สุหฤทเชื่อว่าคนกรุงเทพฯ ทำได้

            10. สุหฤทเชื่อว่า คนเราทุกคนมีอดีต ดีบ้างแย่บ้าง เพราะเราเป็นมนุษย์ มิใช่เทวดา แต่อดีตมันแก้ไม่ได้แต่ควบคุมได้ สุหฤทจึงคิดเริ่มที่จะทำ

            11. สุหฤทรู้ตัวว่า กำลังเขียนเกิน 10 เหตุผลแต่ยังอยากเขียนต่อให้ทุกคนได้อ่าน นะคะเบยงุงิ

            12. สุหฤทคิดว่า ยังมีคนกลุ่มใหญ่ในสังคมที่พร้อมจะ SURPRISE BKK และอยากลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่าง ถึงเวลาของพวกท่านแล้วครับ

            13. รักสุหฤทนะตะเอง SURPRISE BKK FUN BKK SUHARIT RUN BKK





วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

“กทม.” คุมเข้ม ห้ามเล่นดอกไม้ไฟช่วงลอยกระทง


BangkokElection2013 (วันที่ 27 พฤศจิกายน 2555)  - เมื่อเวลา 15.00 น. นายพิพัฒน์ ลาภปราถนา ประธานสภากรุงเทพมหานคร(กทม.) พร้อมนายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ โฆษกสภากทม. และนายสุวพร เจิมรังษี ผู้อำนวยการเขตพระนคร ลงพื้นที่ตรวจร้านดอกไม้ไฟบริเวณร้านค้าย่านภูเขาทอง เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย

โดยนายพิพัฒน์ กล่าวภายหลังลงพื้นที่ว่า การขายดอกไม้ไฟในช่วงวันลอยกระทง วันที่ 28 พ.ย. ทางสภากทม.ได้ประสานไปยัง 50 เขตลงพื้นที่ตรวจร้านค้าที่ลักลอบผลิต หรือจำหน่ายพลุ หรือประทัดยักษ์ ที่ไม่ได้รับอนุญาต เนื่องจากดอกไม้ไฟมีหลายประเภทและเป็นวัตถุอันตรายที่อาจทำให้ได้รับบาดเจ็บและเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ ซึ่งปีที่ผ่านมาพื้นที่กรุงเทพฯ ได้รับร้องเรียนว่ามีการจุดพลุทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก

นายพิพัฒน์ กล่าวด้วยว่า ทางสภากทม.มีความเป็นห่วงในเรื่องนี้ จึงได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดูแล และขอความร่วมมือผู้ค้าให้คำนึงถึงสถานที่จัดจำหน่ายและความปลอดภัย  ให้คำนึงถึงสถานที่และความเดือดร้อนของผู้อื่น ซึ่งเข้าข่ายผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาด 2535 ด้วย

ประธานสภากทม. กล่าวว่า ทั้งนี้ ผู้ประกอบการให้คำมั่นว่าจะปรับตามที่กฎหมายกำหนด โดยอาจจะมีแค่กล่องไม่มีพลุข้างใน ก็สามารถซื้อขายกันได้ และให้สำนักงานเขตช่วยกำกับ อีกทั้งจะตั้งกรรมการ 3 ฝ่าย 1.เขต 2.ผู้ประกอบการ 3.วัดสระเกศ มาหาทางออกร่วมกันตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อหามาตรการควบคุมร้านค้าเหล่านี้ที่อยู่ในชุมชน ซึ่งทุกร้านให้ความร่วมมือ นอกจากนี้ตนจะได้แจ้งให้ทุกเขตได้ดูแลเรื่องนี้ ดังนั้นผู้ประกอบการต้องทำตามที่กฎหมายกำหนด

"ผู้ประกอบการสถานบันเทิงและสถานบริการต่าง ๆ ควรติดป้ายห้ามให้ประชาชนนำดอกไม้ไฟมาเล่นในช่วงเทศกาลลอยกระทงเพื่อเป็นการป้องกันไฟไหม้ โดยผู้บริหารสำนักป้องกันบรรเทาสาธารณภัย กทม.ควรกำชับเจ้าหน้าที่เพื่อเตรียมพร้อม หากมีเหตุเพลิงไหม้อีกด้วย"นายพิพัฒน์กล่าว

ผลงานกทม. บทพิสูจน์ความสามารถในการบริหารงานของผู้ว่าฯ สุขุมพันธุ์



BangkokElection2013 (วันที่ 27 พฤศจิกายน 2555) -  ขอแหวกกระแสการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาฯ มาพูดเรื่องผู้ว่าฯ สุขุมพันธุ์ หน่อย เนื่องจากได้อ่านรายงานสรุปความคืบหน้าผลการดำเนินการและสถานะโครงการของหน่วยงานและส่วนราชการในสังกัดสำนักปลัด กทม. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2555 ของสำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล กทม. รวมทั้งโครงการใหม่ต่างๆของกทม.ในช่วงนี้ เนื่องจากอ่านแล้วน่าตกใจกับความสามารถในการบริหารจัดการงานภายในกทม.ของผู้ว่าฯจากพรรคประชาธิปัตย์ผู้นี้มาก

            จากรายงานสรุปความคืบหน้าผลการดำเนินการและสถานะโครงการของหน่วยงานและส่วนราชการในสังกัดสำนักปลัด กทม. ประจำปีงบประมาณ 2555 ระบุว่ามีจำนวนทั้งสิ้น 7020 โครงการ มีการดำเนินการแล้วเสร็จ 2767 โครงการ และมีโครงการที่ยังอยู่ในระหว่างการดำเนินการมากกว่า 4136 โครงการ นั่นแสดงว่าโครงการต่างๆของกทม.นั้นมีการดำเนินการแล้วเสร็จเพียง 39% ของจำนวนโครงการทั้งหมด เอาล่ะ โครงการหลายโครงการอาจจะมีระยะการดำเนินการที่ยาวนานกว่า 1 ปี แต่โครงการเหล่านั้นแน่นอนว่าต้องเป็นโครงการที่มีขนาดใหญ่ เช่น การก่อสร้างโรงงานขยะ สวนสาธารณะ โครงการสร้างสนามฟุตซอลฯลฯ แต่โครงการเหล่านี้ล้วนแต่ใช้งบประมาณและระยะเวลาที่นาน จำนวนโครงการเหล่านี้จึงน้อยกว่าโครงการต่างๆที่ยังไม่แล้วเสร็จมาก จาก 4136 โครงการที่ยังไม่แล้วเสร็จ แม้จะไม่มีตัวเลขที่แน่ชัดแต่ก็สามารถประเมินได้ว่าโครงการขนาดใหญ่ของกทม.ที่ใช้ระยะเวลาการดำเนินงานเกิน 1 ปี ไม่น่าจะมีเกิน 100 โครงการด้วยซ้ำ ดังนั้นจึงไม่ผิดหากจะบอกว่าโครงการ 4136 โครงการที่ยังไม่แล้วเสร็จ ล้วนแต่เป็นโครงการธรรมดา ที่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ใน 1 ปีงบประมาณ

            แน่นอนว่าการที่โครงการ 7020 โครงการในปีงบประมาณ 2555 เป็นจำนวนที่เยอะมากๆ มากเกินกว่าที่ผู้ว่าฯกทม.จะสามารถรับรู้และเข้าไปตรวจสอบได้ทุกโครงการ แต่ก็ไม่ใช่ข้อแก้ตัวที่จะไม่รับผิดชอบต่อความล่าช้า ไม่เสร็จตามกำหนดของโครงการต่างๆของกทม. เนื่องจากผู้ว่าฯ คือผู้บริหาร ของหน่วยงาน มีหน้าที่ดำเนินการบริหารงานและโครงการทุกโครงการให้สำเร็จเสร็จสิ้นตามแผนงาน ความล่าช้าไม่เสร็จตามกำหนดของโครงการต่างๆของกทม.จึงเป็นเครื่องชี้วัดความสามารถในการบริหารจัดการของผู้ว่าฯกทม.ได้เป็นอย่างดีว่ามีความสามารถมากน้อยเพียงใด นี่เป็นเพียงแค่ภาพรวมโครงการของกทม.เพียง 1 ปีงบประมาณ

            นอกจากนี้ในส่วนโครงการใหญ่ๆที่ล้มเหลวก็มีอยู่ให้เห็นหลายโครงการ ยกตัวอย่างที่ชัดเจนและกำลังอยู่ในกระแสคือ โครงการก่อสร้างสนามฟุตซอลอารีนา ซึ่งแน่นอนแล้วว่าสร้างเสร็จไม่ทันตามกำหนด และสุดท้ายก็ต้องปิดปรับปรุงไปอีกถึงเดือนเมษายน 2556 โครงการนี้สะท้อนวิสัยทัศน์ของผู้ว่าฯสุขุมพันธุ์ได้เป็นอย่างดี หากจำกันได้ก่อนหน้านี้ ผู้ว่าฯสุขุมพันธุ์ได้ออกมาดิ้นรนที่จะใช้สนามนี้ในการแข่งขัดฟุตซอลโลกให้ได้ ต่อมาเมื่อฟีฟ่าไม่ให้ใช้ ก็จะจัดคอนเสิร์ตเพื่อพิสูจน์ความปลอดภัย แน่นอนว่าถ้ามันปลอดภัยจริง ทำไมสุดท้ายจึงไม่จัดและมาให้ปิดปรับปรุงจนถึงเดือนเมษายน 2556 สรุปกันเอาเองได้เลยว่าผู้ว่าฯสุขุมพันธุ์รู้หรือไม่ว่าสนามนี้ยังไม่แล้วเสร็จและยังไม่ปลอดภัย

            สุดท้ายผลงานที่ล้มเหลวเหล่านี้ก็คือบทพิสูจน์ความสามารถในการบริหารของผู้ว่าฯสุขุมพันธุ์ได้เป็นอย่างดีว่า การบริหารงานกทม.ของเขาล้มเหลวหรือไม่ รวมทั้งในโครงการที่เป็นข่าวโด่งดังอย่างความล้มเหลวในการทำงานอย่าง โครงการสร้างสนามฟุตซอลอารีนา ก็เป็นบทพิสูจน์สปิริทความรับผิดชอบได้เป็นอย่างดี ว่าเมื่อล้มเหลวแล้วผู้ว่าฯสุขุมพันธุ์แสดงความรับผิดชอบหรือไม่อย่างไร....

Warit Vader

“ลอยกระทง” กทม. ขยะเกลื่อน ปีละกว่า3แสนกระทง


BangkokElection2013 (วันที่ 27 พฤศจิกายน 2555) - ที่กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม แถลงข่าวการจัดกิจกรรมงานวันลอยกระทง ประจำปี 2555 ภายใต้แนวคิด ลอยกระทงน้ำใส ไร้มลพิษว่า กรมส่งเสริมฯ ร่วมกับกรมประชาสัมพันธ์ จัดงานวันลอยกระทง ระหว่างวันที่ 26–28 พ.ย.นี้ เพื่อร่วมสืบสานประเพณีไทยและแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อสายน้ำที่ให้คุณประโยชน์แก่ประชาชน พร้อมแสดงความเอื้ออาทรและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยการปฏิบัติตามหลัก 3 R เพื่อให้ประชาชนร่วมลดปริมาณกระทงและใช้กระทงจากวัสดุธรรมชาติซึ่งย่อยสลายได้ง่ายและสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อีก

ทั้งนี้ กระทรวงทรัพยากรฯ ขอให้ประชาชนลอยกระทง 1 ครอบครัวต่อ 1 กระทง บุญหนุนส่งให้สุขใจ หรือถ้ามาแบบคู่รัก ก็ลอยด้วยกัน 1 คู่ 1 กระทง รักยืนยง ไม่หลงทาง แต่ถ้ามากับเพื่อนๆ ก็ 1 แก๊ง 1 กระทง รักกันมั่นคงตลอดไป

นายจตุพร กล่าวต่อว่า การรณรงค์ให้ 1 กระทง 1 ครอบครัว 1 กระทง 1 คู่รัก หรือ 1 กระทง 1 แก๊งและใช้กระทงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ สาเหตุมาจากสถิติปัญหาขยะกระทงในพื้นที่กรุงเทพฯ เมื่อปี 2554 ที่ผ่านมา มีจำนวนทั้งสิ้น 322,779 กระทง แบ่งเป็นกระทงจากวัสดุธรรมชาติ กว่า 200,000 กระทงหรือร้อยละ 73.6% แต่มีกระทงโฟมกว่า 57,000 กระทง หรือ 17.9% และวัสดุอื่นกว่า 27,000 กระทงหรือร้อยละ 8.43%

"เขตที่มีกระทงมากที่สุดคือ เขตลาดกระบัง จำนวน 41,582 ใบ เขตที่มีกระทงน้อยที่สุด คือ เขตราชเทวี จำนวน 500 ใบ โดยลดลงจากปี 2553 ร้อยละ 34 ที่เก็บได้ 946,838 กระทง เนื่องจากเกิดปัญหาอุทกภัย โดยปริมาณกระทงที่เก็บได้เมื่อปี 2554 หากนำเอากระทงมาวางต่อกัน จะได้ระยะทางจากกรุงเทพฯ ถึงลพบุรี หรือเท่ากับความยาวของแม่น้ำเจ้าพระยาเลยทีเดียว ดังนั้น กระทรวงทรัพยากรฯ ได้เล็งเห็นความสำคัญในการส่งเสริมการลอยกระทงให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ประเพณีที่ดีที่ต้องสืบสานให้ดำรงอยู่ แต่ขณะเดียวกันก็ต้องทำควบคู่ไปกับการรักษาแม่น้ำ ลำคลองและสิ่งแวดล้อมด้วย" นายจตุพร กล่าว.