วันอังคารที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

"เสรีพิศุทธ์" โดนหมัดแรก "ปชป.สไตล์" สนาม กทม.


BangkokElection2013 (วันที่ 6 พฤศจิกายน 2555)  - สนามเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่กำลังจะถึงนี้ ผู้ที่จะลงสมัครชิงชัยตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. ยังพอจะมองเห็นตัวได้ในขณะนี้ และหนึ่งในผู้สมัครที่ถือเป็นตัวกลั่นตัวหนึ่งที่สำคัญนั่นคือ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ที่ประกาศเปิดตัวเป็นคนแรก ส่วนพรรคเพื่อไทยนั้นยังไม่มีการเปิดตัว

ดังนั้น คู่แข่งขันของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ที่เห็นอยู่ก็เป็นตำรวจ จึงน่าพิจารณาเหมือนกันสำหรับการเปิดข่าวเมื่อไม่นานมานี้เกี่ยวกับเรื่องราวในอดีตเมื่อปี 2550 ครั้งรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี และตอนนั้นมีผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติชื่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส

ข่าวที่เปิดขึ้นมาคือข่าวการประมูลรถจักรยานยนต์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่กำลังเป็นคดีอยู่ระหว่างการตรวจสอบของสำนักงาน ป.ป.ช. และกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบหาหลักฐานเพิ่มเติม เนื่องจากพบพิรุธว่าอาจจะมีการฮั้วประมูลจากการประมูลรถจักรยานยนต์เอาไว้ไปใช้ปฏิบัติงานจำนวน 18,000 คัน งบประมาณทั้งสิ้นจำนวน 1,200 ล้านบาท ต่อมาปรากฏว่าบริษัทที่ชนะการประมูล ได้แก่ บริษัท คาร์แทรคกิ้ง จำกัด

การชนะการประมูลในครั้งนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะเป็นการเสนอรถจักรยานยนต์เมดอินไทยแลนด์ยี่ห้อไทเกอร์ ซึ่งเสนอได้ราคาต่ำกว่าคู่แข่งขัน ทำให้ยี่ห้อฮอนด้าต้องถอนตัวจากการประมูลเนื่องจากราคาแตกต่างกันมาก จึงทำให้บริษัทที่เสนอราคารถจักรยานยนต์ยี่ห้อไทเกอร์เป็นผู้ชนะการประมูลไป

แต่ต่อมามีเรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อมีการทิ้งรถจักรยานยนต์เป็นจำนวนมากกองไว้เป็นกองวัสดุ ทั้งตำรวจจราจรและตำรวจสายตรวจไม่อาจเอาไปใช้งานได้เนื่องจากไม่มีศูนย์ซ่อมและไม่มีอะไหล่บริการ ไปๆมาๆแล้วตำรวจก็ต้องเลิกใช้ เพราะถ้าจะใช้ก็ต้องควักเงินส่วนตัวซ่อมแซมและซื้ออุปกรณ์

ด้วยเหตุเช่นนี้รถจักรยานยนต์จึงกลายเป็นกองวัสดุไม่มีประโยชน์อะไร ทิ้งไว้เฉยๆในหลายแห่ง กลายเป็นหลักฐานประจานผลงานชิ้นนี้ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในสมัยของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส

แม้การสืบสวนหาหลักฐานยังไปไม่ถึงต้นตอ แต่ ป.ป.ช. พอจะมองเค้าของคดีออกว่าน่าจะมีพิรุธในการฮั้วประมูลได้

เรื่องนี้น่าคิดว่าคงจะเป็นการเปิดประเด็นของกลุ่มการเมืองกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ซึ่งมีผลประโยชน์โยงใยเกี่ยวกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. แน่นอนที่ข่าวสารชิ้นนี้จะถูกนำไปใช้ในการกล่าวหาโจมตีคู่แข่งขันที่เป็นตำรวจ
เป้าหมายน่าจะเป็น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ซึ่งเป็นอีกเต็งหนึ่งในตำแหน่งผู้ว่าฯ!

สไตล์การหาเสียงทางการเมืองและเล่นการเมืองเช่นนี้ที่จ้องจับผิดและโจมตีคู่แข่งขันคงจะเดาไม่ยากว่าเป็นฝีมือของพรรคการเมืองใด?

นี่เป็นศึกเริ่มต้น แม้การหาเสียงในวันนี้ยังเพิ่งเริ่มต้นด้วยซ้ำไป! ไม่รู้ว่าจะเป็นผลให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ต้องหน้าแตกยับเยินมากน้อยสักแค่ไหน?

กลยุทธ์ขุดแฉและโจมตีทางการเมือง เอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น เช่นนี้ไม่รู้ว่าคน กทม. จะยอมรับหรือนิยมชมชอบอยู่หรือเปล่า? แต่ทิศทางข้างหน้าทำให้พอสรุปได้ว่าการสร้างจุดขายเป็นคนดีและคนโปร่งใสน่าจะกลายเป็นจุดขายในตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. ของพรรคประชาธิปัตย์อย่างแน่นอน!

ความจริงแล้วพรรคการเมืองพรรคนี้ก็สร้างจุดขายดังกล่าวสำหรับการเลือกตั้งทุกระดับอยู่แล้วในช่วงที่ผ่านมา จุดขายคนดี มือสะอาด จะได้ผลหรือไม่? ต้องรอดูผลการเลือกตั้ง!

บางทีมีความเป็นไปได้ว่าหมากนี้อาจจะเป็นหมากที่ถูกวางมาจากระดับบิ๊กในพรรคประชาธิปัตย์ก็ได้ เพราะตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. นั้นถ้าพรรคไหนสามารถตรึงสถานการณ์ได้มีโอกาสที่จะได้เปรียบในการเลือกตั้ง ส.ส. ของสนามการเมืองใหญ่ต่อไป!

ด้วยข้อสรุปเช่นนี้จึงต้องลงมาเตะสกัดพวกตำรวจใหญ่ที่จะมาเล่นการเมืองในตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. เดิมพันมันใหญ่ เรื่องประมูลรถจักรยานยนต์นี้จึงต้องเป็นฉากออกมาเป็นการประเดิม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น