วันศุกร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2556

“มท.1” จวกเละ “สุขุมพันธุ์” ปมบีทีเอส


BangkokElection2013 (วันที่ 4 มกราคม 2555) - นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ทำหนังสือถึงกระทรวงมหาดไทย ให้ใช้อำนาจยกเลิกสัญญาให้บริการเดินรถไฟฟ้าระหว่างกรุงเทพมหานคร กับ บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอสซี เนื่องจากไม่ได้รับอนุญาตจาก รมว.มหาดไทยว่า ตนยังไม่ได้รับหนังสือดังกล่าวจาก ดีเอสไอ แต่ตนทราบข้อเท็จจริงของเรื่องนี้ดี เพราะเคยเป็น รมว.คมนาคมมาก่อน ซึ่งในอดีตก่อนมีการจัดตั้งการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ผู้ว่า กทม.ขณะนั้นมีความต้องการจะสร้างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายโครงการโฮปเวลล์ ซึ่ง รมว.มหาดไทยขณะนั้นก็มอบอำนาจให้ ผู้ว่า กทม.ดำเนินการ แต่หลังจาก รฟม.ตั้งขึ้น คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติย้อนหลังว่าหากหมดสัญญาการเดินรถซ่อมบำรุง หรือ หมดสัญญาสัมปทาน กทม.ต้องคืนอำนาจการต่อสัญญากลับมาที่ รฟม. และต้องขออนุญาตจาก รมว.มหาดไทย ดังนั้น การที่ กทม.ต่อสัญญาดังกล่าวโดยพลการจึงไม่ถูกต้อง

"กทม.เป็นแค่ตัวแทนเท่านั้น แต่จากตัวแทนคุณกลับมาต่อสัญญาแทนกระทรวงมหาดไทย กลับทะลึ่งมาเป็นเจ้าของอำนาจ หรือถึงแม้ไม่มีอำนาจ แต่ถ้าคุณจะต่อไม่ถามเจ้าของอำนาจที่แท้จริงได้อย่างไร ผู้ว่า กทม.ก็ต้องโดน อย่ามาขอคะแนนสงสารจากชาวบ้านว่าถูกรังแก ส่วนปัญหากับเอกชนนั้น ต้องให้เขารู้ว่าเป็นเรื่องของรัฐบาลกลางกับท้องถิ่นจะฟาดฟันกันอย่างไรไม่เกี่ยวกับ บีทีเอสซี อย่าเอามาเป็นตัวประกัน อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้หาก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ได้รับเลือกตั้งกลับมาเป็นผู้ว่า กทม. ก็ต้องดำเนินคดีกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ แต่ถ้าไม่ได้กลับมาเป็นผู้ว่า กทม. ก็ดำเนินคดีย้อนหลังได้ ขณะเดียวกัน สัญญาที่กทม.ทำกับ บีทีเอสซี เราจะไม่หักด้ามพร้าด้วยเข่า ไม่ทำให้เขาเสียขวัญ เสียบรรยากาศการลงทุน สัญญาที่จะต่อก็ยังต่อให้อยู่ยังได้รับการคุ้มครอง เพราะเขาไม่ทราบว่า กทม.ทำผิด ดังนั้น จึงต้องเรียกมาหารืออีกครั้ง" นายจารุพงศ์ กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น