นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่าบริษัทบีทีเอส กรุ๊ปโฮลดิ้ง
จำกัด(มหาชน)เเละบริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมบัวหลวง จำกัด
ตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางรางบีทีเอสโกรท
เเละเตรียมขายหน่วยลงทุนกับประชาชนว่า ดีเอสไอไม่สบายใจนับสัปดาห์ในเรื่องนี้
เพราะความผิดตามพรบ.หลักทรัพย์ฯเป็นคดีพิเศษที่ดีเอสไอรับผิดชอบโดยตรง
เมื่อมีการตั้งกองทุนนี้ก็กังวลว่าเป็นเรื่องเชื่อมโยงการต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าบีทีเอสเมื่อกลางปีที่เเล้วหน่วยตรวจสอบของดีเอสไอได้เริ่มตรวจสอบ
เเละพรรคเพื่อไทยยื่นเรื่องนี้กล่าวหาว่ามีการดำเนินการที่ไม่ถูกต้องดีเอสไอ จึงเชิญผู้ว่าฯกทม.เเละรองผู้ว่าฯกทม.มารับทราบข้อกล่าวหาว่า
เป็นเรื่องที่ใช้อำนาจของรมว.มหาดไทยมาต่อสัมปทานโดยไม่ชอบ
เเละใช้ชื่อสัญญาว่าจ้างเดินรถ เเละบริหาร 30 ปีเเต่เนื้อหาจริงๆคือต่อสัมปทานเเละขยายเส้นทาง
ทั้งๆที่สัมปทานเดิมยังเหลือ13ปี เเต่กทม.ต่ออายุสัญญาสัมปทานไปอีก17ปี รวม30ปี
นายธารติ กล่าวว่า มุมมองของดีเอสไอมองว่าไม่ถูกต้อง
เพราะอำนาจต่อสัมปทานต้องเป็นของรมว.มหาดไทย ซึ่งรมว.มหาดไทย
ต้องนำเรื่องเเบบนี้เข้าที่ประชุมครม.ปี2532 บีทีเอสกับกทม.ก็ทำเเบบนี้เเต่ครั้งนี้กลับทำเเบบรู้เเละเลี่ยงใช้ชื่ออื่นๆเในสัญญา
เเต่สาระคือต่อสัมปทาน
นายธาริต กล่าวว่า ฉะนั้นมันผิดกฎหมายอาญาเเละสัญญานี้เป็นโมฆะ
บีทีเอสนำโอกาสในอนาคตตั้งกองทุนระดมทุนจากประชาชนผ่านหน่วยลงทุน
ตรงนี้ไปกันใหญ่เเล้ว เพราะมีการหงายไพ่เเล้วดีเอสไอมองว่าเรื่องนี้ถูกต้องหรือไม่
เเละกฎหมายเคร่งครัดกับกฎหมายลงทุนที่หน่วยเงินลงทุนต้องมีที่มาอย่างถูกต้องคุยกับอัยการคดีพิเศษ
สำนักงานอัยการสุงสุดที่ร่วมสอบสวนเรื่องนี้ว่าตรงนี้คือมูลเหตุจุงใจในการต่อสัญญาในอนาคตกฎหมายกระจายอำนาจฯของกระทรวงมหาดไทยนั้นระบุว่าอำนาจเดิมตามกฎหมายเดิมที่ซ้อนกับอำนาจใหม่ของกฎหมายใหม่นั้นต้องเเก้ไขกฎหมายเดิมก่อน
เเต่กระทรวงมหาดไทย ยืนยันว่ายังไม่มีการเเก้ไขประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่58
ที่เชื่อมกับมาตรา31 ของกฎหมายกระจายอำนาจฯ ฉะนั้น อำนาจดังกล่าวยังอยู่ที่รมว.มหาดไทย
ฉะนั้นกทม.เเละบีทีเอส ต้องทำเหมือนเดิมในปี2532 หากเลี่ยงบาลีเเบบนี้กันหมด
บ้านเมืองจะทำเช่นใด ดีเอสไอโดนโจมตีเละ
โดยเฉพาะตนจากทีวีดาวเทียมบางช่องยืนยันว่าตนร่วมทำงานกับคณะทำงานกว่า 20
คนจะชี้นกชี้ไม้ไม้ได้ เเละยอมติดคุกเเทนคนอื่นไม่ได้เช่นกัน
เมื่อถามว่าเเสดงว่านายคีรี กาญจนพาสน์ ผู้บริหารบีทีเอส
ใช้โอกาสในอนาคตตั้งกองทุนรวม เเละขายหน่วยลงทุนกับประชาชนในการขยายเเละเดินไไฟฟ้า
นายธาริต กล่าวว่า ใช่ ประชาชนจะเป็นตัวประกันหากไปซื้อหน่วยลงทุน
บริบทของเรื่องนี้มี 2 เรื่องเเต่พันกันอยู่เเต่กำลังดูว่าจะรวมสำนวนคดีเป็นคดีเดียวหรือไม่
เมื่อถามว่าข้อต่อสู้ของกทม.ตอนนี้คือทำไมไม่ดำเนินคดีผู้ว่าฯกทม.ตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา157 ที่ต้องยื่นต่อปปช. นายธาริต
กล่าวว่าชี้เเจงกับฝ่ายกฎหมายของมรว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร
ผู้ว่าฯกทม.ที่มาพบดีเอสไอเมื่อวันที่ 9 ม.ค.ว่า อำนาจต่อสัญญาสัมปทานเป็นของรมว.มหาดไทยไม่ใช่อำนาจของผู้ว่าฯกทม.
ฉะนั้นสิ่งที่ผู้ว่าฯกทม.เเละรองผู้ว่าฯกทม.ดำเนินการในเรื่องนี้เป็นการกระทำนอกเหนืออำนาจหน้าที่ของตนเอง
มาตรา157นั้นต้องใช้อำนาจหน้าที่โดยไม่สุจริตหรือเเสวงหาผลประโยชน์เพื่อตนเองหรือผู้อื่น
กรณีนี้ผู้ว่าฯกทม.ดำเนินการการนอกอำนาจหน้าที่ เเละนำอำนาจของคนอื่นมาดำเนินการ
ดีเอสไอจึงฟ้องผู้ว่าฯกทม.เเละรองผู้ว่าฯกทม.ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา157 ไม่ได้
กรณีนี้ผู้ว่าฯกทม.เเละรองผู้ว่าฯกทม.มีความผิดตามประกาศคณะปฏิวัติ ปี2515 มาตรา58
เเละกฎหมายกระจายอำนาจฯของกระทรวงมหาดไทย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น