ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
เสนอแนะให้มีการลาออกจากตำแหน่งก่อนพ้นวาระในวันที่ 10 ม.ค. นี้เพื่อป้องกันการร้องเรียนการทำผิดกฎหมายเลือกตั้งว่า
ตนยืนยันมาตลอดแล้วว่าเมื่อครบวาระจะไม่มีการอยู่รักษาการต่อแต่อย่างใด
ซึ่งการตัดสินใจเช่นนี้เป็นเพราะไม่ต้องการให้เกิดข้อร้องเรียนอยู่แล้ว
ดังนั้นการจะลาออกก่อนครบวาระหรืออยู่ครบวาระในวันที่ 10 ม.ค.
นี้ ไม่น่าจะมีผลต่างกัน อย่างไรก็ตามในวันที่ 9 ม.ค.นี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ
(ดีเอสไอ) ได้ทำหนังสือเรียกตนและผู้บริหาร กทม.
เพื่อรับทราบข้อกล่าวหากรณีการต่อสัญญาขยายอายุสัมปทานการเดินรถไฟฟ้าบีทีเอส
จึงต้องพิจารณาว่าการไปรับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 9 ม.ค.
จะต้องไปในตำแหน่งของผู้ว่าฯ กทม. หรือไม่ ซึ่งหากพิจารณาแล้วว่ามีความจำเป็นต้องอยู่ในตำแหน่งเพื่อเข้าไปรับทราบข้อกล่าวหาก็อาจจะต้องอยู่ในตำแหน่งจนครบวาระ
ทั้งนี้ตนเข้าใจ กกต.ที่ต้องการให้ลาออกจากตำแหน่งก่อนที่จะครบวาระ
เพราะเหตุผลหนึ่งจะทำให้ กกต.มีระยะเวลาในการจัดการเลือกตั้งเพิ่มขึ้นตามกฎหมาย
จาก 45 วันเป็น 60 วันด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันที่ 7 ม.ค. นี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร จะเดินทางเข้าพบกับทีมกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อหารือกรณีที่ดีเอสไอเรียกไปรับทราบข้อกล่าวหาดังกล่าว ว่าสมควรเข้ารับทราบข้อกล่าวหารือไม่ เนื่องจาก เห็นว่าดีเอสไอไม่มีอำนาจในการดำเนินการ จึงต้องหารือเพื่อความชัดเจน เนื่องจากการเข้าหรือไม่เข้ารับทราบข้อกล่าวหา อาจจะส่งผลต่อการลงสมัครรับเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม. อีกครั้งของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ซึ่งจะส่งผลต่อภาพลักษณ์และการได้มาซึ่งคะแนนสียงในการเลือกตั้งอีกด้วย
ทั้งนี้ในส่วนของการลาออกก่อนครบวาระหรืออยู่ในตำแหน่งจนครบวาระนั้น คาดว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ น่าจะมีการลาออกจากตำแหน่งก่อนครบวาระในวันที่ 10 ม.ค. 56 เพื่อให้ดำเนินการเลือกตั้งภายใน 60 วัน จะได้มีเวลาในการชี้แจงข้อกล่าวหาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น กรณีต่อสัญญา บีทีเอส การก่อสร้างสนามฟุตซอลล่าช้า เป็นต้น แต่หากลาออกหลังเที่ยงคืนวันที่ 10 ม.ค. โดยไม่อยู่รักษาการผู้ว่าฯ กทม. จนส่งมอบงานให้ผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ การเลือกตั้งจะมีขึ้นภายใน 45 วันเช่นเดิม เกรงว่าจะไม่มีเวลาทำความเข้าใจประชาชนได้เพียงพอ อาจจะมีผลต่อคะแนนเลือกตั้ง ทั้งนี้ก็ต้องฟังการหารือในข้อกฎหมายต่าง ๆ ก่อนว่า วิธีใดจะดีที่สุด กับกรณีมีคดีต้องต่อสู้ และการจะลงสมัครรับเลือกตั้งอีกครั้ง
รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันที่ 7 ม.ค. นี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร จะเดินทางเข้าพบกับทีมกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อหารือกรณีที่ดีเอสไอเรียกไปรับทราบข้อกล่าวหาดังกล่าว ว่าสมควรเข้ารับทราบข้อกล่าวหารือไม่ เนื่องจาก เห็นว่าดีเอสไอไม่มีอำนาจในการดำเนินการ จึงต้องหารือเพื่อความชัดเจน เนื่องจากการเข้าหรือไม่เข้ารับทราบข้อกล่าวหา อาจจะส่งผลต่อการลงสมัครรับเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม. อีกครั้งของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ซึ่งจะส่งผลต่อภาพลักษณ์และการได้มาซึ่งคะแนนสียงในการเลือกตั้งอีกด้วย
ทั้งนี้ในส่วนของการลาออกก่อนครบวาระหรืออยู่ในตำแหน่งจนครบวาระนั้น คาดว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ น่าจะมีการลาออกจากตำแหน่งก่อนครบวาระในวันที่ 10 ม.ค. 56 เพื่อให้ดำเนินการเลือกตั้งภายใน 60 วัน จะได้มีเวลาในการชี้แจงข้อกล่าวหาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น กรณีต่อสัญญา บีทีเอส การก่อสร้างสนามฟุตซอลล่าช้า เป็นต้น แต่หากลาออกหลังเที่ยงคืนวันที่ 10 ม.ค. โดยไม่อยู่รักษาการผู้ว่าฯ กทม. จนส่งมอบงานให้ผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ การเลือกตั้งจะมีขึ้นภายใน 45 วันเช่นเดิม เกรงว่าจะไม่มีเวลาทำความเข้าใจประชาชนได้เพียงพอ อาจจะมีผลต่อคะแนนเลือกตั้ง ทั้งนี้ก็ต้องฟังการหารือในข้อกฎหมายต่าง ๆ ก่อนว่า วิธีใดจะดีที่สุด กับกรณีมีคดีต้องต่อสู้ และการจะลงสมัครรับเลือกตั้งอีกครั้ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น