25 มกราคม 2556 Bangkok
Election -นายสุหฤท สยามวาลา ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สังกัดอิสระ
เขียนหาเสียงผ่านเว็บไซต์ทวิตเตอร์ ระบุว่า ทุกครั้งในการเลือกตั้งเราจะเริ่มมีความเห็นที่แตกต่างกัน
เห็นต่างกันได้ครับแต่อย่าให้เสียมิตรภาพ เพราะมันไม่มีทางทดแทนได้
ตนขอเลิกการว่ากล่าวกันไปมา เดินหน้าทำอย่างเดียว และพร้อมดีเบตทุกเวที
ตนเรียกร้องให้การเลือกตั้งครั้งนี้มีการดีเบตกันเยอะๆ
ไม่ว่าสื่อไหนหรือกลุ่มสังคมไหน ตนพร้อม ทุกท่านจะได้ประโยชน์
ตนอยากให้ประชาชนทุกท่านบอกไปยังสื่อมวลชน ผู้สมัครให้ออกมาดีเบตกัน
เวลาเท่ากันในการพูดเจาะประเด็น เน้นความลึก จะช่วยการตัดสินใจได้มาก
ทั้งนี้ นายสุหฤทยืนยันว่าไม่ใช่ผู้ว่าฯ เด็กแนว ตนมีแนวการหาเสียงที่ไม่ใช้กรอบเดิมที่ไม่มีประโยชน์แก่ท่าน ตนจะหาเสียงคู่ความรู้ มากกว่าได้พื้นที่ข่าว ใครก็อยากได้พื้นที่ข่าว ตนก็อยาก ตนก็มีตารางของตน มีจังหวะจะโคน ไม่ต้องเห็นกันทุกวัน แต่ทุกครั้งที่เห็นกันต้องได้อะไรใหม่ ตนเน้นการที่ให้เราทุกคนในกรุงเทพฯมีส่วนต่อการผลักดันสิ่งที่ต้องการมากกว่ามาบอกว่าจะทำอะไรแล้วผมก็หายไป การเดิน 1 ล้านก้าวของผมจะเป็นบทพิสูจน์ว่าคนในกรุงเทพฯ คือคนที่จะเปลี่ยนทุกอย่างได้ และขอ 1 ล้านเสียงที่ก้าวออกมาพร้อมกัน ตนลงรายละเอียดทุกย่างก้าวที่ผมจะเดิน มันใช้เวลาในการคิดที่ต้องเกิดประโยชน์ แตกต่าง และเป็นจริง ไม่ไร้สาระอย่างที่คนปรามาส อย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่ารัฐบาลไม่ควรปฏิเสธความร่วมมือกับผู้ว่าฯ กทม.ในการบริหาร เพราะทุกคนมาจากประชาชนเหมือนกัน ตนมั่นใจว่ารัฐบาลรักพวกเราพอ
“ผมไม่ใช่คนบ้าทฤษฎี แต่บ้าผลลัพธ์ และการลงมือปฏิบัติ โลกนี้ไม่ยากอย่างที่เราคิด นโยบายที่ดีต้องเริ่มร่างที่ปัญหาและสิ่งที่ต้องแก้มากกว่าการร่างเพื่อหาเสียง นโยบายที่ดีต้องเริ่มที่การต้องการจะแก้ปัญหาที่คนทุกข์มากกว่าเลี่ยงเขียนอะไรกลางๆ ถึงแม้จะแก้ยากก็ต้องเขียนเพื่อผูกพัน ไม่มีนโยบายที่ทุกคนจะเฮ มันจะกระทบคนอื่นเสมอ แต่ตัวตัดสินคือกฎหมาย มันคือกติกาที่เราจะอยู่ร่วมกันได้ครับ ถ้าจดลิขสิทธิ์นโยบายได้ก็คงดี” นายสุหฤทระบุ
ทั้งนี้ นายสุหฤทยืนยันว่าไม่ใช่ผู้ว่าฯ เด็กแนว ตนมีแนวการหาเสียงที่ไม่ใช้กรอบเดิมที่ไม่มีประโยชน์แก่ท่าน ตนจะหาเสียงคู่ความรู้ มากกว่าได้พื้นที่ข่าว ใครก็อยากได้พื้นที่ข่าว ตนก็อยาก ตนก็มีตารางของตน มีจังหวะจะโคน ไม่ต้องเห็นกันทุกวัน แต่ทุกครั้งที่เห็นกันต้องได้อะไรใหม่ ตนเน้นการที่ให้เราทุกคนในกรุงเทพฯมีส่วนต่อการผลักดันสิ่งที่ต้องการมากกว่ามาบอกว่าจะทำอะไรแล้วผมก็หายไป การเดิน 1 ล้านก้าวของผมจะเป็นบทพิสูจน์ว่าคนในกรุงเทพฯ คือคนที่จะเปลี่ยนทุกอย่างได้ และขอ 1 ล้านเสียงที่ก้าวออกมาพร้อมกัน ตนลงรายละเอียดทุกย่างก้าวที่ผมจะเดิน มันใช้เวลาในการคิดที่ต้องเกิดประโยชน์ แตกต่าง และเป็นจริง ไม่ไร้สาระอย่างที่คนปรามาส อย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่ารัฐบาลไม่ควรปฏิเสธความร่วมมือกับผู้ว่าฯ กทม.ในการบริหาร เพราะทุกคนมาจากประชาชนเหมือนกัน ตนมั่นใจว่ารัฐบาลรักพวกเราพอ
“ผมไม่ใช่คนบ้าทฤษฎี แต่บ้าผลลัพธ์ และการลงมือปฏิบัติ โลกนี้ไม่ยากอย่างที่เราคิด นโยบายที่ดีต้องเริ่มร่างที่ปัญหาและสิ่งที่ต้องแก้มากกว่าการร่างเพื่อหาเสียง นโยบายที่ดีต้องเริ่มที่การต้องการจะแก้ปัญหาที่คนทุกข์มากกว่าเลี่ยงเขียนอะไรกลางๆ ถึงแม้จะแก้ยากก็ต้องเขียนเพื่อผูกพัน ไม่มีนโยบายที่ทุกคนจะเฮ มันจะกระทบคนอื่นเสมอ แต่ตัวตัดสินคือกฎหมาย มันคือกติกาที่เราจะอยู่ร่วมกันได้ครับ ถ้าจดลิขสิทธิ์นโยบายได้ก็คงดี” นายสุหฤทระบุ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น