22 มกราคม 2556 Bangkok Election - พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส เปิดตัวการลงสมัครรับเลือกตั้งอย่างเป็นทางการในนามกลุ่มพลังกรุงเทพฯไม่สังกัดพรรคการเมือง พร้อมเปิดตัวทีมงานที่ศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง
ถนนรัชดาภิเษก สำหรับรองผู้ว่าฯกทม. 2 คน คือ รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการหลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์
มหาวิทยาลัยรังสิต และนายประพันธ์ คูณมี อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)
และทีมที่ปรึกษากฎหมายกลุ่มพันธมิตร
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า
นโยบายบริหารกทม.ของตน คือ พูดจริง ทำจริง ตรวจสอบ และวัดผลได้ ด้วยสโลแกน“เสรีพิศุทธ์
ผู้ว่าคนจริงของคนกทม.“ เป้าหมายสูงสุด คือ
พัฒนาคุณภาพชีวิตของคนกรุงเทพฯ และผู้มาเยือนให้ดีทุกๆด้าน
รวมถึงสร้างกรุงเทพให้เป็นเมืองน่าอยู่ น่าท่องเที่ยว เป็นศูนย์กลางประชาคมอาเซียน
รวมถึงทำให้ประชาชนมีความสุขและปลอดภัย โดยขอให้คำมั่นสัญญาว่า“จะทำให้กรุงเทพฯเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นภายใน 1 ปี
และเรียบร้อยภายใน 4 ปี”
สำหรับบุคคลที่จะมาร่วมงาน
และทำหน้าที่รองผู้ว่าฯ กทม. คือ นายประพันธ์ คูณมี อดีต สนช. และ รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์
ผู้อำนวยการหลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
รวมถึงผู้มีความรู้ความสามารถอีกจำนวนมากที่จะทยอยเปิดตัวหลังจากนี้
ตนยอมรับว่าการลงสมัครในนามอิสระ เป็นเรื่องยากที่จะชนะการเลือกตั้ง
แต่ตัดสินใจลงแข่งขัน เพราะต้องการเป็นทางเลือกและอนาคตใหม่ให้คน กทม.
นอกจากนั้นเหตุผลที่ตนลงสมัครในนามอิสระ
เพราะมองว่าการสังกัดพรรคการเมืองจะขาดความเป็นอิสระในการทำงาน
เพราะถูกครอบงำจากนโยบายและมติของพรรค
ที่สำคัญที่ผ่านมาการเมืองระดับชาติจะใช้การปกครองท้องถิ่นเป็นฐานเสียงทางการเมือง
จึงพบการใช้เงินซื้อเสียงมหาศาล และพฤติกรรมการทุจริตงบประมาณ ผ่านโครงการต่างๆ
มากถึงร้อยละ 30-40
ทำให้ไม่สามารถแก้ปัญหาพื้นฐานให้กับประชาชนได้ “ถึงเวลาที่คนกทม.ต้องร่วมหยุดการเมืองที่โกงชาติ
ยุติการจับประทศ และ กทม. เป็นตัวประกัน เพราะการบริหารกทม. เป็นงานของบ้านเมือง
ไม่ใช่เรื่องการเมือง อำนาจผลประโยชน์ จึงอาสาแก้ปัญหาให้คน กทม.
โดยไม่ได้ทะเยอทะยาน หรือใฝ่สูงทางการเมือง”พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าว
สำหรับโครงการที่จะใช้หาเสียงกับประชาชนเบื้องต้นจะแก้ปัญหาให้ข้าราชการและลูกจ้างกทม.
ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม
จะแก้ไขกฎหมายเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ไม่ให้ผู้สมัครสังกัดพรรคการเมืองลงแข่งขัน
เพื่อป้องกันการครอบงำ และการใช้ฐานปกครองท้องถิ่นเป็นฐานเสียงทางการเมือง
ส่วนการบริหารงานก็จะมีนโยบายด้านต่างๆได้แก่
ด้านสิ่งแวดล้อม จะทำโครงการสวนไปถึงบ้าน นโยบายการศึกษา
จะสร้างสนามกีฬาในโรงเรียนกทม.
ด้านสาธารณสุขจะมีแพทย์ประจำครอบครัว ชุมชน ด้านการแก้ปัญหาจราจรจะจัดบริการรถเมล์แอร์ฟรี
เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง เป็นต้น
ส่วนการทำงานในอนาคต
เชื่อว่าจะเข้ากับทุกฝ่ายได้
เพราะสมัยที่รับราชการเคยทำงานร่วมกับคนของพรรคเพื่อไทย และประชาธิปัตย์มาแล้ว
ปัญหาการประสานงานกับรัฐบาลไม่ได้จึงไม่น่าจะเกิดขึ้น เพราะ
ตนมีความเป็นกลางสามารถเชื่อมกับทุกพรรคทุกฝ่ายได้
ทางด้านนายประพันธ์ กล่าวว่านอกจากรองผู้ว่าฯ 2 คนที่เปิดตัวไปแล้ว
ยังได้รับการยืนยันจากผู้มีความรู้ความสามารถอีกจำนวนมากที่จะเข้าร่วมทำงาน อาทิ นายอมรวิทย์ นาครทรรพ นายเกียรติวรรณ อมาตยกุล
เป็นทีมที่ปรึกษาด้านการศึกษา นายปราโมช
รัฐวินิจ อดีตอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ นพ.กุศล ประวิทย์ไพบูลย์
หัวหน้ากลุ่มพยาบาลเพื่อมวลชน
หนึ่งในกลุ่มอาสาแพทย์สนามของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นายประกอบ วิโรจนกูฏ
อธิการบดีมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี นายสุทธิเดช สุทธิสมณ์ อดีตผู้ช่วยผู้ว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
เป็นต้น
นายประพันธ์ยืนยันว่าประเด็นการทำงานการเมืองในอดีตจะไม่เป็นปัญหาต่อการทำงานของกลุ่มในอนาคต
เพราะตามกฎหมายรัฐบาลและกทม.ต้องทำงานเกื้อหนุนกัน
เพราะการทำงานส่วนใหญ่เป็นเรื่องบริการสาธารณะและงาน กทม.
เป็นงานบ้านเมืองไม่ใช่งานการเมือง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น