นายณัฏฐ์ บรรทัดฐาน ส.ส.กทม. ในฐานะรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์
แถลงถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ( ดีเอสไอ) เตรียมเรียกผู้บริหารกรุงเทพมหานคร (
กทม.) ไปรับทราบข้อกล่าวหา กรณีร่วมกันประกอบกิจการรถราง โดยไม่ได้รับอนุญาต
จากกระทรวงมหาดไทย ในวันที่ 9 ม.ค.ว่า กรณีนี้เป็นประเด็นการเมืองอย่างชัดเจน
หลังจากที่พรรคประชาธิปัตย์ ประกาศส่งผู้สมัคร ตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.ในนามพรรค คือ
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร และคาดการณ์ได้ว่าหลังจากนี้ จะมีคดีอื่นๆหรือเรื่องอื่นที่เกี่ยวข้องกับกทม.ทยอยออกมาเป็นซีรีย์อย่างแน่นอน
ตนเชื่อว่าน่าจะมีคนที่มีอำนาจมากกว่าดีเอสไอ มาชี้หรือบ่งการให้ทำ
โดยดีเอสไอ เป็นเพียงเครื่องมือประกอบ
ที่จะเดินเรื่องเล่านี้ให้เป็นไปตามความต้องการที่จะให้เป็น ซึ่งผู้ว่า กทม.
เป็นข้าราชการการเมือง ดีเอสไอไม่มีหน้าที่รับเรื่องไว้สอบสวน เป็นหน้าที่ของ
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือปปช.
ที่จะดำเนินการเรื่องข้อกล่าวหานี้ และในกรณีนี้เป็นการต่อสัญญากับบริษัทบีทีเอสซี
ซึ่งกรุงเทพมหานคร มีหุ้นอยู่ 90 กว่าเปอร์เซนต์ จึงตั้งเป็นการบริหารกิจการร่วมกับเอกชนเพื่อเกิดความคล่องตัวที่ต้องทำธุรการตลอด
24 ช.ม.ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่โดยตรงขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่นมีอำนาจทำได้ทันที
และไม่ใช่การต่ออายุสัมปทานแต่อย่างใด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น