วันจันทร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2556

“พงศพัศ” ชูนโนบาย "ทำงานร่วมกับรัฐบาลแบบไร้รอยต่อ"


BangkokElection2013 (วันที่ 14 มกราคม 2555) - พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าพบนายกรัฐมนตรีว่า ได้เล่าให้นายกรัฐมนตรีทราบถึงความในใจว่าทำไมถึงได้ตัดสินใจลาออกจากชีวิตรับราชการตำรวจ ซึ่งถ้านับตั้งแต่อยู่โรงเรียนนายร้อยตำรวจก็ถือว่าได้ทำงานดูแลประชาชนมาเกิน 35 ปีแล้วอย่างไรก็ตามได้เรียนให้นายกรัฐมนตรีทราบอย่างตรงไปตรงมาไม่ใช่นักการเมือง ถ้าเทียบพรรษากันก็ถือว่านับจากศูนย์ แต่มีความตั้งใจ และพรรคเพื่อไทยมีนโยบายที่จะรับใช้คนกทม. ทั้งนี้ตลอดชีวิตการทำงานก็มีประสบการณ์ ได้รู้ถึงความทุกข์ยาก และร่วมทุกข์ร่วมสุขกับชาว กทม.มาเยอะ ซึ่งได้เห็นปัญหาต่าง ๆ มากมายที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข เมื่อทางพรรคเพื่อไทยให้โอกาส ก็ยินดีรับด้วยความเต็มใจ และจะขอลาออกจากราชการตำรวจหลังจากที่มีประกาศ กกต.กำหนดวันเลือกตั้งแล้ว เพราะตามระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เปิดโอกาสให้ข้าราชการตำรวจทุกคนได้มีโอกาสลาไปสมัครในการดำเนินการทางการเมือง

นายกฯก็ให้กำลังใจ และอยากที่จะให้นำนโยบายเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ของการทำงานร่วมกับรัฐบาลอย่างไร้รอยต่อไปบอกกล่าวกับพี่น้องประชาชนชาว กทม.ว่า ผู้ว่าฯกทม.คนใหม่จะทำงานร่วมกับรัฐบาลอย่างไร เพื่อดูแลแก้ไขปัญหา ทั้งปัญหาพื้นฐาน การพัฒนา หรือการขับเคลื่อน กทม.ให้เป็นศูนย์กลางประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งนายกฯก็บอกว่ายินดีและเต็มใจให้การสนับสนุนทุกอย่างในการทำงานเพื่อดูแลทุกข์สุขให้กับชาวกทม. สำหรับผมเองก็ไม่มีนโยบายอะไรมาก เพราะเคยเข้าถึงทุกพื้นที่มานาน รู้ทุกปัญหา ผมยืนยันว่ามีความตั้งใจจริง ๆ ที่อยากจะคืนความสุข และสร้างรอยยิ้มให้กับประชาชนชาว กทม.ทุกคนพล.ต.อ.พงศพัศ กล่าว และว่าหัวใจของการหาเสียงครั้งนี้คือนำยุทธศาสตร์การทำงานร่วมกับรัฐบาลแบบไร้รอยต่อมาเป็นนโยบายหลัก โดยจะชี้ให้เห็นถึงผลดีและประโยชน์ที่จะตกกับคนกทม.ซึ่งในส่วนของนายกรัฐมนตรีก็บอกว่าจะหาเวลาลงพื้นที่ช่วยหาเสียงให้มากที่สุดด้วย เพื่อนำเสนอยุทธศาสตร์ต่าง ๆ ให้กับคน กทม.

เมื่อถามว่ามั่นใจแค่ไหนว่าจะชนะการเลือกตั้ง พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า เป็นเพียงการเสนอตัวรับใช้ชาว กทม.เช่นเดียวกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร และผู้สมัครคนอื่น ๆ ว่าเราจะทำอะไรให้คน กทม. ซึ่งในระบอบประชาธิปไตยก็ถือเป็นสิทธิและดุลยพินิจของประชาชนที่จะเลือกผู้สมัครคนใด ทั้งนี้แนวทางการหาเสียงของตนจะคิดบวกทำบวก ไม่ว่าร้ายใคร ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำเรื่องนี้เช่นเดียวกัน เมื่อถามว่ากังวลว่าจะถูกนำเรื่องส่วนตัวในอดีตมาโจมตีหรือไม่ พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติ ตนรับได้ อะไรที่อธิบายได้ตนก็จะทำ ตนพร้อมที่จะตอบทุกคำถาม ไม่มีความลับอะไร ตรงไปตรงมาชัดเจน ส่วนการเปิดตัวทีมรองผู้ว่าฯกทม.นั้น ตนจะหาเสียงในฐานะผู้สมัครผู้ว่าฯคนเดียวก่อน จากนั้นทางพรรคก็คงจะมาพิจารณาตัวทีมรองผู้ว่าฯกทม.อีกครั้ง และก็จะทำเวิร์คช้อปกับ ส.ส.กทม. รวมทั้ง ส.ก. และส.ข.ด้วย สำหรับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ แกนนำพรรคเพื่อไทยที่จะเข้ามาช่วยเรื่องนโยบายด้วยนั้น ถือว่าเป็นประโยชน์ เพราะมีประสบการณ์ทางการเมืองในกทม. และตนก็พร้อมที่จะนำไปปฏิบัติ

ต่อข้อถามที่ว่า ดูจากคู่แข่งแล้วมีความหวั่นเกรงอะไรหรือไม่ โดยเฉพาะอดีตนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่อีก 1 คนที่ลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.ด้วย พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า ตนขอหยิบยกคำพูดของ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ดีกว่าว่าเราคงไม่ได้แข่งขันกันระหว่างตัวบุคคล แต่เราแข่งขันในเชิงนโยบายและงานที่เรามุ่งมั่นทำให้ประชาชน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น