วันศุกร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2556

นโยบายความปลอดภัย : พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ หลมายเลข 9


ด้านการรักษาความปลอดภัยในกรุงเทพฯ ของ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ  ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หมายเลข9 พรรคเพื่อไทยตลอดช่วงการหาเสียงที่ผ่านมา  ที่ได้เปิดรายละเอียดนโยบายด้านการรักษาความปลอดภัยในกรุงเทพฯ ด้วยยุทธศาสตร์การทำงานที่ยังดำรงไว้เรื่อง "ไร้รอยต่อ"  เพราะมั่นใจว่าการแก้ไขปัญหาให้คน กทม.จำเป็นต้องเชื่อมโยงกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  และต้องดำเนินการทันที จึงมีนโยบายตั้งศูนย์เฝ้าระวังภัย กทม. ทั้งอาชญากรรม อัคคีภัย และยาเสพติด เอ็กซเรย์ทุกพื้นที่ 24 ชั่วโมง  เพื่อป้องกันและแบ่งเบาความกังวลใจให้กับประชาชน  เนื่องจาก กทม.มีพื้นที่เสี่ยงหลายพื้นที่ ในแต่ละปีมีคดีอาชญากรรมมากกว่าแสนคดี  กทม.จะเป็นฐานข้อมูลกลางที่เชื่อมโยงข้อมูลมาจากกล้องทั้งภาครัฐและเอกชน






      นโยบายด้านความปลอดภัยโดยตั้ง Bangkok Surveillance Center ทำหน้าที่เป็นศูนย์เฝ้าระวังความปลอดภัย 24 ชม.โดยจะประสานเชื่อมสัญญาณภาพจากกล้อง CCTV ทั้งของภาครัฐ เอกชน และประชาชนเพื่อเฝ้าระวังรอบด้าน แก้ไขปัญหาอาชญากรรมทั้งหมดจะเชื่อมโยงโดยมีการตั้ง “ศูนย์เฝ้าระวังอาชญากรรม ยาเสพติด อัคคีภัย และภัยพิบัติ”
      นโยบายการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทั้งหมดจะเชื่อมโยงโดยมีการตั้ง “ศูนย์เฝ้าระวังอาชญากรรม ยาเสพติด อัคคีภัย และภัยพิบัติ” หรือ Bangkok Surveillance Center ทำหน้าที่เป็นศูนย์เฝ้าระวังความปลอดภัย 24 ชม.โดยจะประสานเชื่อมสัญญาณภาพจากกล้อง CCTV ทั้งของภาครัฐ เอกชน และประชาชนเพื่อเฝ้าระวังรอบด้าน
      เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยโดยการจัดทำ Bangkok Crime Map แสดงตำแหน่งอาชญากรรมทั่ว กทม.โดยการเก็บข้อมูลสถิติจุดเสี่ยงใน กทม.เพื่อวางแผนร่วมกับหน่วยงานรัฐจัดโซนนิ่ง พื้นที่เสี่ยงและพื้นที่ปลอดภัยเพื่อวางกำลังเจ้าหน้าที่ให้เหมาะสม ถือเป็นระบบการพยากรณ์อาชญากรรมที่อาจจะเกิดขึ้นในแต่ละจุดของ กทม.นอกจากนี้จะสร้างเครือข่ายอาสาสมัครเพื่อความปลอดภัย 1 แสนคน โดยการจัดอบรมกลุ่มมอเตอร์ไซต์รับจ้าง คนขับรถแท็กซี่ หรือประชาชนที่ประกอบอาชีพเก็บขยะให้มีคุณภาพเท่ามาตรฐานสากล ให้ช่วยสอดส่องปัญหาอาชญากรรมเสมือนเป็นซีซีทีวีภา
        พัฒนาระบบข้อมูลความปลอดภัยและ Bangkok Crime Map จัดทำแผนที่แสดงตำแหน่งอาชญากรรมทั่วกรุงเทพฯ เพื่อให้เข้าถึงพื้นที่เกิดเหตุได้อย่างรวดเร็ว และเก็บข้อมูลสถิติอาชญากรรมเพื่อวางแผนดูแลความปลอดภัยร่วมกับหน่วยงานภาครัฐอย่างไร้รอยต่อ และวางโซนนิ่งพื้นที่เสี่ยง พื้นที่ปลอดภัยในการวางกำลังเจ้าหน้าที่อย่างเหมาะสม
Bangkok Surveillance Center ทำหน้าที่เป็นศูนย์เฝ้าระวังความปลอดภัย 24 ชม.โดยจะประสานเชื่อมสัญญาณภาพจากกล้อง CCTV ทั้งของภาครัฐ เอกชน และประชาชนเพื่อเฝ้าระวังรอบด้าน
      ปรับปรุงระบบกล้องวงจรปิดใหม่ทั้งหมดให้กล้องทุกส่วน ทั้งบ้าน อาคาร บริษัท หน่วยงานรัฐ หรือตามสี่แยกใน กทม.มาเชื่อมข้อมูลเป็นจุดเดียวกันที่ศูนย์เฝ้าระวังอาชญากรรมฯ โดยจะนำซอฟแวร์รูปแบบใหม่จากต่างประเทศมาใช้เพื่อหารูปพรรณ สัณฐานคนร้ายด้วย โดยการใส่ข้อมูลของคนร้ายที่เคยก่ออาชญากรรม หลังจากนี้กล้องทุกตัวที่เชื่อมโยงกับศูนย์จะมีระบบคอมพิวเตอร์ประเมินรูปพรรณคนร้าย หากมีความคล้ายคลึงกัน จะประสานทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการทันที ถือเป็นการเฝ้าระวังก่อนที่ภัยจะเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
          จะสร้างเครือข่ายอาสาสมัครเพื่อความปลอดภัย 1 แสนคน โดยการจัดอบรมกลุ่มมอเตอร์ไซต์รับจ้าง คนขับรถแท็กซี่ หรือประชาชนที่ประกอบอาชีพเก็บขยะให้มีคุณภาพเท่ามาตรฐานสากล ให้ช่วยสอดส่องปัญหาอาชญากรรมเสมือนเป็นซีซีทีวีภาคมนุษย์รายงานข้อมูลที่พบเห็นเข้าศูนย์เฝ้าระวังได้ตลอด 24 ชม
         ด้านยาเสพติด สนับสนุนการขยายโครงการชุมชนอุ่นใจได้ลูกหลานกลับคืน ให้ครบทุกชุมชนที่มีการแพร่ระบาดของยาเสพติด ให้โรงเรียน กทม.ทุกแห่งเป็นโรงเรียนสีขาวปลอดยาเสพติดอย่างสิ้นเชิง ปรับปรุงสภาพแวดล้อมในชุมชนเสี่ยงให้มีลานกีฬา หรือลานกิจกรรมสำหรับเยาวชน ให้โรงพยาบาลสังกัด กทม.ทุกโรงเป็นศูนย์ฟื้นฟูและบำบัดผู้เสพยาฟรี เพื่อให้ได้บำบัดรักษาอาการบริเวณใกล้บ้านได้

          ติดตั้งจีพีเอสบนรถสาธารณะทุกคันด้วยงบ กทม. ประสานติดกล้องซีซีทีวีบนรถเมล์ ขสมก. ประสานเชื่อมซีซีทีวีกับบีทีเอส เอ็มอาร์ที และบีอาร์ที เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยให้กับผู้โดยสาร

          ด้านอัคคีภัย จะเพิ่มจำนวนสถานีดับเพลิงให้ครอบคลุมเขตชุมชนและตึกสูง เพิ่มบุคคลากร รถดับเพลิง อุปกรณ์ต่างๆ ให้เหมาะสมเพียงเพิ่มอุปกรณ์ดับเพลิงอาคารสูง ซื้อเฮลิคอปเตอร์ดับเพลิง เข้าดับเพลิงอาคารสูงที่รถดับเพลิงไม่มีศักภาพเพียงพอ ประสานเฮลิคอปเตอร์จากหน่วยงานอื่นในการสำรวจที่เกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียงทันที





ลดอาชญากรรมทุกประเภทลง 20% จาก 160,811 คดีในปี 55 เหลือ 128,648 คดี

ลดอาชญากรรมนักท่องเที่ยวต่างชาติ 50% จาก 233 คดีเหลือ 116.5 คดี

ลดอาชญากรรมเด็ก ผู้หญิง คนชรา 50% จาก 9,476 คดีเหลือ 4,738 คดี

ลดพื้นที่แพร่ระบาดยาเสพติด 30% จาก 1,010 ชุมชน เหลือ 707 ชุมชน

นำผู้เสพเข้ารับการบำบัดฟื้นฟู 50% จากจำนวน 2 แสนคน เหลือ 1 แสนคน

และลดความสูญเสียจากเพลิงไหม้และภัยพิบัติต่างๆ โดยแก้ไขระบบให้สามารถเข้าถึงที่เกิดเหตุเร็วขึ้นกว่าเดิม 50%



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น