วันพฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

"ประพันธ์" ตัวแทน "เสรีพิสุทธิ์" หอบหลักฐานร้องกกต.กทม.สอบสวนดุสิตโพล


13 กุมภาพันธ์ 2556 Bangkok Election - นายประพันธ์ คูณมี หนึ่งในทีมงานของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. ได้เข้ามอบหลักฐานพร้อมกับให้ถ้อยคำเพิ่มเติมกรณีที่ได้ยื่นคำร้องขอให้ตรวจสอบการทำและเผยแพร่ผลสำรวจความคิดเห็น (โพลล์) ของสวนดุสิตโพลล์ ที่มีลักษณะไม่ถูกต้องตามหลักวิชาต่อฝ่ายสืบสวนของกกต.กทม.ต่อฝ่ายสืบสวนสอบสวนของกกต.กทม.

โดยนายประพันธ์กล่าวภายหลังเข้าให้ข้อมูลนานกว่า 1 ชั่วโมงว่า ได้นำใบรับมอบอำนาจจากพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์มามอบให้กกต.กทม.พร้อมเข้าให้ถ้อยคำและนำกับนำหลักฐานเอกสารมายื่นเพิ่มเติม โดยเป็นผลโพลล์ของสวนดุสิตโพลระหว่างวันที่ 23-30 ม.ค. ที่ระบุถึงความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการตัดสินใจเลือกผู้สมัครฯผู้ว่ากทม.พรรคเพื่อไทยคือ พล.ต.อ.พงศ์พัศ พงษ์เจริญ เป็นผู้ว่าฯกทม.ไปแล้วร้อยละ 40 และเหลือผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ยังไม่ตัดสินใจอีกร้อยละ 9 ซึ่งหลังจากนั้นสวนดุสิตโพลล์ก็ได้เผยแพร่ผลโพลล์อีกครั้งระหว่างวันที่ 4-8 ก.พ. ว่ามีผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ยังไม่ตัดสินใจเหลืออยู่ร้อยละ 30 โดยผลโพลล์ 2 ครั้งดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าข้อมูลมีความขัดแย้งกัน รวมทั้งยังนำข้อมูลจากสำนักข่าวอิศรา ที่ผอ.สวนดุสิตโพลรับเป็นเจ้าภาพจัดงานสานเสวนา และการรับทำโพลล์ในโครงการต่างๆ ของรัฐบาล และยังได้นำคลิปวีดีโอนายมานิจ สุขสมจิตร อดีตนายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต แถลงข่าวลาออกโดยให้เหตุผลว่ามาจากการทำโพลล์ที่ทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อสถาบัน มามอบให้ แต่ทางฝ่ายสืบสวนของกกต.ขอให้นำกลับไปถอดเป็นถ้อยคำ ก่อนให้นำมามอบให้ทั้งคลิปวีดีโอ และคำถอดเทป รวมทั้งยรายละเอียดผลสำรวจของสวนดุสิต ภายในวันที่ 15 ก.พ.นี้ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดที่นำยื่น ก็เพื่อแสดงให้เห็นว่า เชื่อได้ว่าผอ.สวนดุสิตโพลล์ มีพฤติการณ์ที่เชื่อมโยงถึงความสัมพันธ์กับบุคคลในรัฐบาล พรรคเพื่อไทย และผู้สมัครเบอร์ 9

"ฝ่ายสืบสวนของกกต.กทม.สอบถามว่าต้องการจะร้องใคร ก็ได้ยืนยันเลยว่าต้องการร้องเรียนผอ.สำนักสวนดิสตโพล และผู้สมัครเบอร์ 9 เนื่องจากตามหลักฐานที่ได้ยื่นนั้นแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงกันระหว่างสำนักโพล รัฐบาลและพรรคเพื่อไทย โดยผมก็ได้ชี้ให้เห็นถึงความผิดปกติของสวนดุสิตโพลกับโพลที่ทำโดยสำนักอื่นว่า ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันการสำรวจความเห็นประชาชนไม่มีสำนักโพลไหนที่สำรวจออกมาแล้วได้ผลออกมาว่าประชาชนตัดสินใจเลือกผู้สมัครรายใดเป็นผู้ว่ากทม.แล้วร้อยละ 90 ตั้งแต่เพิ่งเริ่มต้น แต่พอทำสำรวจครั้งต่อมาของสวนดุสิตโพลกลับอ้างว่ายังมีประชาชนร้อยละ 30 ที่ยังไม่ตัดสินใจเลือก ซึ่งข้อมูลทั้ง 2 ครั้งขัดแย้งกันเอง ขณะที่สำนักโพลอื่นผลสำรวจออกมามีคะแนนคึวามนิยมสูสีกัน และมีตัวเลขผู้ที่ไม่ตัดสินใจอยู่ร้อยละ 30 ทั้งที่สวนดุสิตโพลเหลือแค่ร้อยละ 10 จะเห็นว่าการทำโพลของสวนดุสิตโพลเข้าข่ายผิดมาตรา 57(5) ของพ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่น เป็นจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัคร"นายประพันธ์ กล่าว

นายประพันธ์ ยังกล่าวด้วยว่า จากเหตุดังกล่าวจึงอยากให้กกต.กทม.ใช้อำนาจเรียกเอกสารและเชิญผู้ทำโพลล์ของสวนดุสิตโพลมาชี้แจง เพราะข้อมูลต่างๆ ตนเองไม่สามารถนำมาได้เพราะอยู่ในความครอบครองของสวนดุสิต ซึ่งการยื่นร้องของตนไม่ได้ขอร้องให้กกต.สั่งยุติการทำโพล แต่เป็นการขอให้ตรวจสอบเพื่อให้การทำโพลอยู่บนพื้นฐานหลักวิชาการ

ทั้งนี้นายประพันธ์ ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้ทางทีมกฎหมายของ.พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ กำลังพิจารณาว่าจะมีการร้องต่อกกต.กทม.ขอให้ตรวจสอบกรณีนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีไปช่วยพล.ต.อ.พงศ์พัศ ปราศรัยหาเสียง ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐใช้ตำแหน่งหน้าที่ไปเป็นคุณเป็นโทษกับผู้สมัครหรือไม่ เพราะการไปช่วยหาเสียงแต่ละครั้งทั้งนายกฯและรัฐมนตรี ก็มักจะพูดว่า หากเลือกเบอร์ 9 ก็จะได้รถไฟฟ้า ซึ่งรถไฟฟ้าไม่ได้ถือเป็นอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาของผู้ว่าฯกทม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น