11 กุมภาพันธ์ 2556
Bangkok Election - ที่อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สภาธุรกิจตลาดทุนไทย
จัดการแสดงวิสัยทัศน์ผู้ว่าฯ กทม. "วิสัยทัศน์กรุงเทพฯ"
โดยมีผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.เข้าร่วมแสดงวิสัยทัศน์ จำนวน 5 ราย ได้แก่
พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ หมายเลข 9
นายโฆษิต สุวินิจจิต หมายเลข 10
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หมายเลข 11
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร หมายเลข 16
นายสุหฤท สยามวาลา หมายเลข 17
โดยผู้ดำเนินรายการได้ให้ผู้สมัครแกล่าวถึงแนวทางการจัดหางบประมาณมาใช้ในการบริหาร
กทม.และการป้องกันปัญหาคอรัปชั่น
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า
การ จัดหางบประมาณนั้นจะบริหารงบประมาณร่วมกับสภา กทม.อย่างใกล้ชิด
และอาศัยกลไกจากรัฐบาลมาช่วยเนื่องจากกทม.มีงบประมาณอย่างจำกัด
ส่วนเรื่องคอรัปชั่นแม้ว่าจะทำงานแบบไร้รอยต่อกับรัฐบาล
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่สามารถตรวจสอบได้
โดยตนก็จะเปิดให้ประชาชนสามารถตรวจสอบได้นอกจากองค์กรตรวจสอบที่มีอยู่แล้ว
นายโฆษิต กล่าวว่า
การจัดหางบประมาณในการทำโครงการต่างๆ
นั้นจะใช้วิธีการทำโครงการเติมเงินให้กรุงเทพฯ
โดยต้องทำให้ประชาชนกินดีอยู่ดีก่อน เมื่อเงินในกระเป๋ามากขึ้น
มีรายได้มากขึ้นก็จะต้องเสียภาษีมากขึ้น
ซึ่งได้วางโครงการ 50 เขต 50 ยุทธศาสตร์
เพื่อเน้นธุรกิจการค้าและศิลปวัฒนธรรมและสาสนา
รวมทั้งจะร่วมมือกับสภาธุรกิจตลาดทุนไทยเพื่อจับมือกับเอกชนเพื่อสร้างราย ได้
และอยากให้รัฐบาลโอนอำนาจมาให้ กทม.ดูแลตัวเอง จะทำให้งบประมาณของ กทม.มีเพียงพอ
หาก กทม.ปราศจากการเมืองแล้วตนคิดว่าเอกชนจะกล้าลงทุนหรือเข้ามาช่วยเหลือกทม.มากขึ้นด้วย
เพราะไม่ต้องกังวลว่าเมื่อมาช่วย กทม.จะทำให้
ถูกมองว่าเข้าข้างพรรคการเมืองพรรคไหน
ส่วนการแก้ปัญหาคอรัปชั่นนั้นง่ายมากเมื่อไม่มีการลงทุนทางการเมืองการคอรัปชั่นก็จะไม่มี
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า งบประมาณที่กทม.มีกว่า 6 หมื่นล้านบาทนั้น อีกทั้งมีการสนับสนุนจากรัฐบาลอีกด้วย
จงคิดว่าเรื่องงบประมาณไม่น่าจะมีปัญหา
ถ้าตนเป็นผู้ว่าฯกทม.จะต้องไม่มีการทุจริต เพราะตนปราบปรามการทุจริต
จับโกงมาโดยตลอดอาชีพรับราชการ จึงจะไม่ยอมให้มีการคอรัปชั่นเด็ดขาด
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า
ส่วนเรื่องของงบประมาณในการนำมาดำเนินโครงการต่างๆ นั้นตนห่วงเรื่องนี้น้อยที่สุด
เพราะเป็นเรื่องที่ต้องจัดงบประมาณไว้อยู่แล้ว
การจัดการกับปัญหาคอรัปชั่น
ซึ่งเป็นปัญหาที่มีอยู่ในทุกระดับจะต้องมีการแก้ปัญหาในระยะยาว ทั้งนี้
กทม.ก็จะร่วมมือกับองค์กรตรวจสอบทุกองค์กร
และที่ผ่านมาหากมีโครงการใดที่มีคนมาร้องเรียน
ตนก็จะให้เริ่มทำร่างประกวดราคาใหม่ทุกครั้ง
อีกทั้งกทม.ก็มีองค์กรตรวจสอบของกทม.เอง
คือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
กทม. (ป.ป.ช.กทม.) แต่คงไม่สามารถทำได้ในระยะเวลาอันสั้นได้
นายสุหฤท กล่าวว่า นอกจากงบประมาณของ
กทม.แล้วหาก ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างเต็มที่
ก็จะทำให้กทม.มีศักยภาพด้านงบประมาณมากขึ้น
อีกทั้งในเรื่องของโครงการต่าง ๆ นั้น
ถ้าการจัดซื้อจัดจ้างเป็นไปอย่างถูกต้อง ไม่มีการคอรัปชั่นตนเชื่อว่าจะประหยัดไปได้เป็นพันล้าน ซึ่งจะเชื่อมโยงไปถึงปัญหาเรื่องคอรัปชั่นด้วย
ซึ่งหากมีการเปิดโอกาสให้ทุกองค์กรเข้ามาตรวจสอบอย่างกว้างขวางก็จะลดปัญหาไปได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น