7 กุมภาพันธ์ 2556 Bangkok Election - ที่พรรคเพื่อไทย พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครผู้ว่าฯ
กทม.พรรคเพื่อไทย
แถลงนโยบายด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอย่างเป็นทางการ ภายใต้หัวข้อ “เปลี่ยนแปลงใหม่เพื่อความปลอดภัยของ
กทม.” มีแกนนำพรรคเพื่อไทย อาทิ นายจาตุรนต์ ฉายแสง
อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค นายคณวัฒน์
วศินสังวร สส.บัญชีรายชื่อ นายชูศักดิ์ ศิรินิล ทีมกฎหมายพรรค และ สส.และ
สก.กทม.พรรคเพื่อไทยเข้าร่วมฟังการแถลงด้วย
พล.ต.อ.พงศพัศ แถลงว่า หากได้รับเลือกเป็นผู้ว่าฯ
กทม.ภายในปีแรกจะเดินหน้านโยบาย
ลดอาชญากรรมทุกประเภทลง 20% จาก 160,811 คดีในปี 55 เหลือ 128,648 คดี
ลดอาชญากรรมนักท่องเที่ยวต่างชาติ 50% จาก 233 คดีเหลือ 116.5 คดี
ลดอาชญากรรมเด็ก ผู้หญิง คนชรา 50% จาก 9,476 คดีเหลือ 4,738 คดี
ลดพื้นที่แพร่ระบาดยาเสพติด 30% จาก 1,010 ชุมชน เหลือ 707 ชุมชน
นำผู้เสพเข้ารับการบำบัดฟื้นฟู 50% จากจำนวน 2 แสนคน เหลือ 1 แสนคน
และลดความสูญเสียจากเพลิงไหม้และภัยพิบัติต่างๆ
โดยแก้ไขระบบให้สามารถเข้าถึงที่เกิดเหตุเร็วขึ้นกว่าเดิม 50%
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวต่อว่า
นโยบายการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทั้งหมดจะเชื่อมโยงโดยมีการตั้ง “ศูนย์เฝ้าระวังอาชญากรรม
ยาเสพติด อัคคีภัย และภัยพิบัติ” หรือ Bangkok
Surveillance Center ทำหน้าที่เป็นศูนย์เฝ้าระวังความปลอดภัย 24
ชม.โดยจะประสานเชื่อมสัญญาณภาพจากกล้อง CCTV ทั้งของภาครัฐ
เอกชน และประชาชนเพื่อเฝ้าระวังรอบด้าน
ทั้งนี้ พล.ต.อ.พงศพัศขยายความว่า
ระบบข้างต้นเป็นการปรับระบบกล้องวงจรปิดใหม่ทั้งหมดให้กล้องทุกส่วน ทั้งบ้าน อาคาร
บริษัท หน่วยงานรัฐ หรือตามสี่แยกใน
กทม.มาเชื่อมข้อมูลเป็นจุดเดียวกันที่ศูนย์เฝ้าระวังอาชญากรรมฯ
โดยจะนำซอฟแวร์รูปแบบใหม่จากต่างประเทศมาใช้เพื่อหารูปพรรณ สัณฐานคนร้ายด้วย
โดยการใส่ข้อมูลของคนร้ายที่เคยก่ออาชญากรรม
หลังจากนี้กล้องทุกตัวที่เชื่อมโยงกับศูนย์จะมีระบบคอมพิวเตอร์ประเมินรูปพรรณคนร้าย
หากมีความคล้ายคลึงกัน จะประสานทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการทันที
ถือเป็นการเฝ้าระวังก่อนที่ภัยจะเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
พล.ต.อ.พงศพัศ
กล่าวอีกว่า จะเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยโดยการจัดทำ Bangkok Crime Map แสดงตำแหน่งอาชญากรรมทั่ว กทม.โดยการเก็บข้อมูลสถิติจุดเสี่ยงใน กทม.เพื่อวางแผนร่วมกับหน่วยงานรัฐจัดโซนนิ่ง
พื้นที่เสี่ยงและพื้นที่ปลอดภัยเพื่อวางกำลังเจ้าหน้าที่ให้เหมาะสม
ถือเป็นระบบการพยากรณ์อาชญากรรมที่อาจจะเกิดขึ้นในแต่ละจุดของ กทม.นอกจากนี้จะสร้างเครือข่ายอาสาสมัครเพื่อความปลอดภัย 1 แสนคน
โดยการจัดอบรมกลุ่มมอเตอร์ไซต์รับจ้าง คนขับรถแท็กซี่ หรือประชาชนที่ประกอบอาชีพเก็บขยะให้มีคุณภาพเท่ามาตรฐานสากล
ให้ช่วยสอดส่องปัญหาอาชญากรรมเสมือนเป็นซีซีทีวีภาคมนุษย์รายงานข้อมูลที่พบเห็นเข้าศูนย์เฝ้าระวังได้ตลอด
24 ชม.
สำหรับนโยบายด้านยาเสพติดนั้นจะสนับสนุนให้ขยายโครงการ “ชุมชนอุ่นใจได้ลูกหลานกลับคืน”
ให้ครบทุกชุมชนที่ยังเป็นพื้นที่แพร่ระบาดของยาเสพติด
ให้ทุกโรงเรียนในสังกัดกทม.เป็นโรงเรียนสีขาว
ปรับปรุงสภาพแวดล้อมในชุมชนเสี่ยงให้ทุกชุมชนมีลานกีฬาหรือลานกิจกรรม
และผลักดันให้โรงพยาบาลในสังกัด กทม.ทุกแห่ง รวมถึงศูนย์สาธารณสุข 68
แห่งที่มีแนวคิดจะยกสถานะเป็นโรงพยาบาลชุมชนนั้นเป็นศูนย์ฟื้นฟูและบำบัดผู้เสพติด
โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย กล่าวด้วยว่า
ความปลอดภัยบนรถโดยสารสาธารณะเป็นอีกนโยบายสำคัญที่จะต้องเพิ่มความปลอดภัยทั้งคนขับและผู้โดยสาร
โดยการติดตั้งระบบจีพีเอสในรถบริการสาธารณะทุกคัน จัดทำระบบให้ความช่วยเหลือผผู้โดยสารผ่านช่องทาง
sms และ
แอปพลิเคชันในระบบมือถือ ให้ผู้โดยสารแจ้งจุดหมายปลายทางกับศูนย์เฝ้าระวัง
โดยทางศูนย์จะมีการตรวจสอบรถสาธารณะผ่านระบบจีพีเอสว่าผู้โดยสารเดินทางถึงจุดหมายปลายทางหรือไม่
อีกทั้งจะประสานงานกับ ขสมก.ติดตั้งกล้องซีซีทีวี ในรถประจำทางและประสานเชื่อมระบบกล้องซีซีทีวีกับรถ
BTS MRT และ BRT
อย่างไรก็ตามสำหรับความปลอดภัยด้านอัคคีภัย
จะเพิ่มอัตราการเข้าถึงพื้นที่เกิดภัยให้รวดเร็ว
จัดหาเฮลิคอปเตอร์ดับเพลิงให้เพียงพอกับการแก้ปัญหาอัคคีภัยของตึกสูง
เพิ่มจำนวนสถานีดับเพลิง บุคลากร รถดับเพลิง อุปกรณ์
เครื่องมือให้มีจำนวนที่เหมาะสมกับสถานการณ์เกิดภัยต่างๆ รวมทั้งจะจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือที่ใช้ในการดับเพลิงให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น
สามารถเข้าถึงถนนแคบ หรือ อาคารสูงเพื่อการช่วยเหลือที่ทันการณ์
“ขอเน้นย้ำว่าทุกนโยบายที่ผมพูดไม่ได้เรียกว่าการสัญญา
แต่เป็นการให้สัญญาประชาคมว่าหากได้รับการเลือกตั้งแล้วจะทำอะไรให้พี่น้องประชาชนชาวกรุงเทพฯ
บ้าง” พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวเน้นย้ำ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น