13 กุมภาพันธ์ 2556
Bangkok Election - ศูนย์ติดตามประชาธิปไตยไทย
ร่วมกับหลักสูตรรัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการเมืองและการจัดการปกครอง
ภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดงานเสวนา
"ประชันวิสัยทัศน์ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม."
การเสวนาถูกแบ่งออกเป็น 3 ช่วง
1.ให้ผู้สมัครนำเสนอวิสัยทัศน์ แนวโยบาย
และความเห็นการบริหารกรุงเทพฯ
2.เปิดคำถามจากประชาชนถามผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.
ประกอบด้วย มีนโยบายในการจัดทำผังเมืองรวมในเขตเศรษฐกิจ ที่พักอาศัย เขตเมืองเก่า
เมืองใหม่อย่างไร จำเป็นหรือไม่ผู้ว่าฯกทม.ต้องดึงการจัดการมาจากรัฐบาลกลาง
มีแนวทางสร้างความสมดุลระหว่างหาบเร่แผงลอย และคนเดินเท้าอย่างไร
มีนโยบายการมีส่วนร่วมช่องทางกลไกของประชาชนอย่างไร
จะสร้างระบบขนส่งมวลชนให้ใช้งานครอบคลุมอย่างไร จะมีนโยบายสร้างที่พักหรือจุดบริการน้ำดื่มฟรีให้มอเตอร์ไซค์รับจ้าง
หรือแท็กซี่อย่างไร
3.คำถามจากผู้เข้าร่วมการเสวนา ประกอบด้วย
จะแก้ปัญหาปากท้องอย่างไร มีแนวทางแก้ปัญหารกาเก็บค่าต๋งวินมอเตอร์ไซค์
แท็กซี่อย่างไร มีนโยบายจัดสรรพื้นที่สาธารณะให้เยาวชนอย่างไร
ให้กรุงเทพฯเป็นเมืองรักการอ่านอย่างไร และผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ในนามอิสระ
ลงเลือกตั้งเพื่อหยั่งเสียงคนกรุงเทพฯ เพื่อเตรียมไปลงเลือกตั้งใหญ่หรือไม่
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า ได้ลงพื้นที่มานานก็จะพบปัญหาของประชาชน
แต่อำนาจของผู้ว่าฯกทม.และงบประมาณ ทั้งหมดมีความยากจะแก้ปัญหาได้
จึงต้องมีการวางยุทธศาสตร์พัฒนากรุงทพฯอย่างไร้รอยต่อ
โดยเฉพาะปัญหาที่อยู่นอกเหนืออำนาจผู้ว่าฯกทม.
ต้องได้รับความร่วมมือกับรัฐบาลทั้งงบประมาณ และกลไกต่างๆ โดยจะเน้นไปที่
ความสะดวก ความสะอาด ความปลอดภัย ต้องลงไปแก้ไขตั้งแต่ระดับชุมชน เอากรุงเทพฯออกสู่นอกกรอบเพื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
นอกจากนี้ อำนาจผู้ว่าฯกทม.มีอำนาจจัดการบางส่วนได้ย่างเบ็ดเสร็จ
ในอนาคตอาจจะแก้ไขกฎหมายเพื่อแก้ปัญหาได้ทุกมิติ
แต่ข้อจำกัดเรื่องอำนาจผู้ว่าฯกทม.ยังมีอยู่ จึงต้องมีการบริหารจัดการ
ที่ตนได้เสนอรถเมล์ฟรีเพื่อต้องการให้ลดรายจ่าย และจัดการบริหารการเดินรถใหม่
โดยลดปริมาณรถเมล์ออกไป 30 เปอร์เซ็นต์ จะเอาไปวิ่งที่เขตหนองจอก ดอนเมือง เป็นต้น
โดยนำไปวิ่งที่หน้าหมู่บ้าน ชุมชน จะมีการจัดกำหนดโซนนิ่งตั้งแต่ใจกลางเมือง
ถึงพื้นที่ชายขอบ เพื่อให้เกิดโครงข่ายการจราจรโดยรวม
"การมีส่วนร่วมเป็นสีสันของประชาธิปไตย
แต่พ่อบ้านกรุงเทพฯต้องใส่ใจเรื่องข้อมูลแล้ว
ต้องให้ประชาชนอีกหลายส่วนมาเสนอปัญหาของตัวเอง
โดยเฉพาะกระบวนการตรวจสอบมีความจำเป็น หากผู้บริหารผู้ว่าฯกทม.ถูกตั้งข้อสงสัย
กระบวนการตรวจสอบก็มีความจำเป็น แต่ต้องมีช่องทางอื่นเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน
ส่วนในเรื่องการเก็บเงินนอกระบบนั้นเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยตรง"พล.ต.อ.พงศพัศ
กล่าว
นายโฆษิต กล่าวว่า แม่ของตนเคยเป็นคนหาบเร่แผงลอย
จึงน่าจะเข้าใจเรื่องนี้มากที่สุด
เห็นปัญหาจะไม่สามารถแก้ได้หากยังติดกับความขัดแย้งทางการเมือง จึงต้องมีอิสระจากพรรคการเมือง
ก็จะเกิดความขัดแย้งมาตลอดหลาย 10 ปี เอาเมืองหลวงไปเกี่ยวกับพรรคการเมือง
ทุกคนบอกเมืองไทยดีหมด ยกเว้นนักการเมืองไทยที่ไม่ดี
ดังนั้นต้องให้กรุงเทพฯมีคุณภาพ เน้นนโยบายกรุงเทพฯ 24 ชั่วโมง 50 ยุทธศาสตร์
ให้เป็นมหานครแห่งอาเซียน ส่วนเมืองหลวงในหลายประเทศมีการถ่ายอำนาจไปท้องถิ่น
ยุทธศาสตร์ไร้รอยต่อต้องเจอด่านแรกในสภากทม. ซึ่งเป็นประชาธิปัตย์ก็เหนื่อยแล้ว
ส่วนการแก้ปัญหาจราจรต้องนโยบายกรุงเทพฯ 24 ชั่วโมง อาทิ รถไฟฟ้าเดินทาง 24
ชั่วโมง จะช่วยปัญหาจราจรได้ ต้องมีการติดป้ายจราจรให้เดินทางได้สะดวก
หรือใครทำงานตรงไหนก็ไปทำงานตรงนั้นได้
ส่วนการแก้ปัญหาจราจรระยะสั้นต้องมีการเชื่อมโยงจากชุมชนหมู่บ้าน
โดยใช้แนวคิดชัตเตอร์บัสตลอด 24 ชั่วโมง
หรือสร้างที่ตอดรถยนต์เพิ่มเติมในจุดรถไฟฟ้า และสร้างโมโนเรลเพื่อเข้าสู่ระบบ
ให้เป็นโครงข่ายใยแมงมุม และการสร้างพื้นที่ให้เยาวชนนั้น
จะมีศูนย์แสดงความสามารถดนตรี บันเทิง กีฬา ให้คนทุกวัยในทุกเขต
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า คนกรุงเทพฯต้องมีคุณภาพดีขึ้น เป็นศูนย์กลางอาเซียน
มีความสงบเรียบร้อย รถไม่ติด น้ำไม่ท่วม น้ำใส โรงพยาบาลต้องทันสมัย ผู้สูงอายุ
เยาวชนต้องได้รับการดูแล ส่วนผู้สมัคร 24 คนใครจะดูแลเรื่องอาชญากรรม
ยาเสพติดได้ดีเท่าตน 1 ปีเปลี่ยนแปลง 4 ปีเรียบร้อย
ส่วนการแก้ปัญหาทางเท้าจะต้องให้ทางเท้าสัญจรไปมาได้ โดยพื้นที่ย่านเยาราชในเวลา 1
เดือนจะจัดให้เรียบร้อย ถ้าในเขตหนองจอก ลาดกระบัง ก็ใช้เวลา 7 เดือนในการหาพื้นที่ค้าขายให้
และให้มีตลาดค้าขายเพิ่มเติม อีกทั้งจะให้มีตลาดลอยฟ้ามีบันไดเลื่อน
มีการติดเครื่องปรับอากาศให้เป็นพื้นที่ค้าขาขาย
ส่วนการดูแลปัญหาปากท้องนั้นตนจะมีแนวคิดจะตั้งโรงทานแต่ละเขตในกรุงเทพฯ
ขณะที่ปัญหาการแจกน้ำดื่มมันเล็กน้อยมากที่จะมาถามผู้ว่าฯกทม. ไม่เห็นมาสาระอะไร
เพราะเป็นเรื่องของเขตดูแลได้
"ถ้าผมเป็นผู้ว่าฯกทม.จะย้ายกทม.ไปดินแดง
จะให้กทม.1 เป็นศูนย์การเรียนรู้ให้คนกรุงเทพฯ
โดยโรงเรียนกทม.จะให้มีห้องสมุดประชานได้เข้าไปอ่าน
และให้ทุกเขตจะมีพื้นที่การเรียนรู้เพิ่มเติม"พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวและว่า
ตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.การเมืองไม่ควรมาเกี่ยวข้อง
ผู้ว่าฯกทม.จากพรรคการเมืองที่ผ่านมาก็โดนคดีทั้งหมด
จะเห็นได้ว่าการเมืองใหญ่ต้องการฐานกรุงเทพฯให้ได้ ต้องมีผู้ปกครองไปด้วย
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า
มีการทำผลสำรวจสมัยตตนเป็นผู้ว่าฯกทม.ถึงปัญหาของคนกรุงเทพญว่าต้องการแก้ปัญหาอย่างไร
แต่ผู้ว่าฯกทม.ต้องมีนโยบายครบถ้วนทุกกระบวนการ จะมีอำนาจแค่ไหนไม่สำคัญ
ต้องทำทุกสิ่งอย่างให้ครบ ตามคำขวัญทั้งชีวิตเราดูแล ตั้งแต่แรกเกิด วัยเรียน
วัยทำงาน และผู้สูงอายุ รวมถึงกลุ่มเด็กออติสติก สตรี ผู้พิการ
ซึ่งผู้ว่าฯกทม.ต้องตั้งเป้าให้ได้ ไม่นั้นไม่ควรเป็นผู้ว่าฯกทม. ขณะที่เมืองเก่า
และเมืองใหม่มีการขีดเส้นตายแล้ว
โดยพื้นที่รอบเกาะรัตน์โกสินทร์อยู่ในความดูแลของรัฐบาล
โดยคณะกรรมการเกาะรัตนโกสินทร์ สมัยที่ตนเป็นผู้ว่าฯกทม.
ได้ยกร่างผังเมืองรวมฉบับที่ 3 การแบ่งแยกพื้นที่ต่างๆจะทำได้ยาก
เพราะความเป็นจริงเกิดการผสมผสานระหว่างพาณิชย์ บันเทิง ที่พักอาศัย อาทิ
ย่านสุขุมวิท แต่เน้นให้มีพื้นที่สีเขียว
ที่สำคัญพื้นที่ต้องสะท้อนกับความเป็นจริง
การยกร่างผังเมืองไม่ได้เริ่มจากกระดาษเปล่า
แต่ต้องสร้างความสมดุลระหว่างมนุษย์กับสิ่งปลูกสร้างส่วนเรื่องการมีส่วนร่วมของประชาชนในด้านกฎหมายคำถามนี้ไม่ค่อยถูกต้อง
การมีส่วนร่วมของประชาชนไม่ใช่เรื่องกฎหมายเท่านั้น
ชีวิตประชาชนมาทั้งในระดับหมู่บ้าน ชุมชน และระดับเขต ซึ่งกทม.มีชุมชนพึ่งตนเอง
ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้ทุกคนมีส่วนร่วมได้ การมีส่วนร่วมเกิดตลอดเวลา
ส่วนการการแก้ไจกฎหมายก็สามารถทำได้ ซึ่งตนได้เสนอร่างไปแล้ว
เพื่อให้กฎหมายมีความเข้มข้นยิ่งขึ้น ที่ผ่านมากทม.ถูกตรวจสอบตลอดเวลา
ทั้งที่รักของตน ดีเอสไป เป็นต้น ขณะที่การดูแลปัญหาของคนกรุงเทพฯ
ส่วนหนึ่งตนจะมีอาหารเช้าฟรีสำหรับนักเรียนสังกัดกทม. และการศึกษาฟรี ทั้งนี้
เรื่องการอ่านจะมีห้องสมุดการ์ตูนแห่งแรกที่เขตห้วบขวางและฝั่งธนบุรี
นายสุหฤท กล่าวว่า ผู้ว่าฯกทม.ต้องไปดูแลงานประจำในหน้าที่ปรกติที่ทำอยู่
แต่ต้องเน้นการเปลี่ยนความรู้สึกของคนกรุงเทพฯให้ภาคสังคมลุกขึ้นมาเปลี่ยนด้วยกัน
ถ้าใช้ไม้เรียวอย่่างเดียว จะไม่มีทางจะมีความสุขยั่งยืน อาทิ
ความปลอดภัยบนทางเท้า ปัญหาจราจรที่รีบไปทั้งหมด เอาขยะมาแรกสวนสาธารณะ 50 เขต 50
เสน่ห์ ดูแลโรงเรียนด้วยหัวใจ จักรยานไม่ใช่ลูกเมียน้อย ผู้หญิงต้องมีความสุข
หรือชีวิต 2 ด้าน และเมืองแห่งแอพลิเคชั่น นอกจากนี้ จะมีแนวคิดที่ต้องพัฒนา
ซึ่งกรุงเทพฯเป็นไข่ดาว จึงต้องมีไข่ดาว 50 ใบ แต่เมื่อไม่สามารถทำอะไรกลุ่มใหญ่
จึงต้องค่ายๆสร้างทั้งหมด 50 ใบล้อมรอบ เพื่อเศรษฐกิจ คมนาคม
อีกทั้งต้องมีความเจริญ แต่ไม่ได้พังของเก่าให้หายไป เขตเมืองเก่าต้องรักษาสุดชีวิต
อาจะมีการพัฒนาการเพิ่มช็อปปิ้งสตรีท การรักษาอัตลักษณ์กรุงเทพฯเอาไว้ได้
และต้องมีถนนเศรษฐกิจหลักของแต่ละเขต หามีการตลาดเข้าไปเชื่อว่าไข่ดาวจะครบ 50
ให้ได้
ส่วนแก้ปัญหาจราจรต้องมีการคิดว่าจะนำประชาชนออกมาจากหมู่บ้านอย่างไร
ต้องให้รถสาธารณะทั้งหมดพุ่งเข้าไปที่รถไฟฟ้าสายหลักเป็นเครือข่ายใยแมงมุม
ถ้าไม่มีการเริ่ม คนก็ไม่เลิกขับรถ ตนไม่เชื่อเรื่องประชานิยิมของฟรี
เพราะน้ำมันที่ซื้อมาก็ต้องจ่าย ทั้งนี้
ในเรื่องรักการอ่านอยากให้มีหนังสือทุกสถานีรถไฟฟ้า ให้ทุกคนเลิกพิมพ์แล้วหันมาอ่านหนังสือให้มากขึ้น
ขณะที่เรื่องสมัครผู้ว่าฯกทม.ของตนนั้น ตนไม่ได้ลงทุนเพื่อไปถอนทุน
มีคนบอกต้องเป็นคนบ้ามาเลือกเท่านั้น
แต่เมื่อไหร่เลิกคิดพรรคการเมืองคือเจ้าของกรุงเทพฯ ต้องเป็นผู้ว่าฯกทม.อิสระ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น