วันพุธที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ปลัด กทม. ย้ำ จนท. วางตัวเป็นกลางก่อนศึกชิงผู้ว่าฯ




BangkokElection2013 (วันที่ 17 ตุลาคม 2555) นางนินนาท ชลิตานนท์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) แจ้งว่า ด้วยผู้ว่าราชการ กทม. จะครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 10 ม.ค. 2556 และตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น พ.ศ.2545 มาตรา 7 บัญญัติให้คณะกรรมการการเลือกตั้งจัดให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ภายใน 45 วัน นับแต่วันครบวาระการดำรงตำแหน่ง (ภายในวันที่ 24 ก.พ. 56) และมาตรา 57 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว ประกอบกับประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง วิธีการหรือลักษณะต้องห้าม ในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2551 ข้อ 6 บัญญัติว่าเมื่อมีประกาศให้มีการเลือกตั้ง อันเนื่องมาจากการครบวาระการดำรงตำแหน่งของสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น ห้ามมิให้ผู้สมัคร หรือผู้ใดกระทำการ หรืออาศัยผู้ใดกระทำการเพื่อจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้ลงคะแนนเลือกตั้งให้แก่ตนเอง หรือผู้สมัครอื่น หรือให้งดเว้นการลงคะแนนเลือกตั้งแก่ผู้สมัครใดภายในหกสิบวันก่อนครบวาระการดำรงตำแหน่ง จนถึงวันเลือกตั้งด้วยวิธีการดังนี้

1. จัดทำให้เสนอให้สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใด เช่น งานวันเกิด งานบวช งานโกนจุก งานแต่งงาน งานขึ้นบ้านปีใหม่ งานบุญ งานเทศกาล งานขึ้นปีใหม่ หรืองานศพ เป็นต้น

2. ให้ เสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดไม่ว่าทางตรง หรือทางอ้อมแก่ชุมชน สมาคม มูลนิธิ วัด มัสยิด สุเหร่า ศาลเจ้า โรงเจ โบสถ์คริสต์ โบสถ์พราหมณ์ สำนักปฏิบัติธรรม สถานศึกษา สถานสงเคราะห์ สหกรณ์กองทุนสงเคราะห์ ชุมนุม ชมรม สโมสรหรือสถาบันอื่นใดที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศ เช่น การบริจาคเงิน การประมูลทรัพย์สิน หรือสิ่งของในงานกุศลต่างๆ เป็นต้น

3. โฆษณาหาเสียงเลือกตั้งด้วยการจัดให้มีมหรสพหรือการรื่นเริงต่างๆ รวมทั้งการแสดงและการละเล่นอื่นๆ
4. เลี้ยงหรือรับจะจัดเลี้ยงผู้ใด

5. หลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในเรื่องใดอันเกี่ยวกับผู้สมัครใด เช่น การปราศรัยด้วยข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง เป็นต้น

เพื่อให้การดำเนินการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่จะมีขึ้นในปี พ.ศ. 2556 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย บริสุทธิ์ ยุติธรรม และเป็นการป้องกันมิให้ข้าราชการและลูกจ้างของ กทม.ถูกกล่าวหาว่าเสียความเป็นกลางทางการเมือง จึงให้หน่วยงานและส่วนราชการของ กทม. ถือปฏิบัติ ดังนี้

1. ให้ข้าราชการและลูกจ้างในสังกัด วางตัวเป็นกลางทางการเมืองโดยเคร่งครัด และให้ใช้ความระมัดระวังในการไปร่วมกิจกรรมมวลชนต่างๆ ตลอดจนระมัดระวังการใช้ตำแหน่งหน้าที่กระทำการใดๆ อันเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง เว้นแต่เป็นการกระทำตามอำนาจหน้าที่

2. การจัดโครงการเกี่ยวกับการประชุม อบรม สัมมนา ทัศนศึกษาดูงาน ตลอดจนการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับมวลชน ซึ่งมีการกำหนดไว้ตามแผนงานประจำปี ควรเร่งรัดดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 10 พ.ย. 55 3. ให้งดดำเนินการโครงการเกี่ยวกับการประชุม อบรม สัมมนา ทัศนศึกษาดูงาน ตลอดจนการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับมวลชนตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย. 55 เป็นต้นไปจนเสร็จสิ้นการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ยกเว้นงานพระราชพิธี งานประเพณีสำคัญที่จัดเป็นประจำทุกปี หรือกิจกรรมที่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการ ซึ่งหากไม่ดำเนินการอาจเกิดความเสียหายแก่ราชการ ให้หน่วยงาน หรือส่วนราชการพิจารณาดำเนินการได้ตามความเหมาะสม

ทั้งนี้ ให้อยู่ในดุลพินิจของหัวหน้าหน่วยงาน หรือหัวหน้าส่วนราชการ และให้หัวหน้าหน่วยงาน หรือหัวหน้าส่วนราชการ ควบคุมดูแลระมัดระวังอย่าให้มีการหาเสียงทางการเมือง หรือเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อบุคคลหนึ่งบุคคลใด จนทำให้เสียความเป็นกลางทางการเมือง รวมทั้งกำชับเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องวางตัวเป็นกลางทางการเมืองโดยเคร่งครัด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น