วันจันทร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

กกต.ตั้งทีมเก็บข้อมูลก่อนเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ระวังกระทำผิดตามพ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่น


BangkokElection2013 (วันที่ 19 พฤศจิกายน 2555) - นายสมชัย จึงประเสริฐ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย กล่าวถึง การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่ากทม.) ที่จะมีขึ้นในปี 2556 ภายหลังม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่ากทม.จะครบวาระในวันที่ 10 ม.ค.56 ว่า ในส่วนของฝ่ายสืบสวนสอบสวนได้มีการตั้งคณะติดตามข่าวเกี่ยวกับการเลือกตั้งผู้ว่ากทม.แล้ว ทันทีที่พ.ร.บ.เลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 มีผลบังคับใช้ ดังนั้นจึงขอฝากเตือนผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ผู้ว่ากทม. ไม่ใช่แค่เพียงผู้ว่ากทม.เท่านั้น ขอให้พึงระมัดระวังในการหาเสียงอย่างเคร่งครัดตามมาตรา 57 ของพ.ร.บ.เลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นฯ ระบุว่า เมื่อมีการประกาศให้มีการเลือกตั้งในกรณีอื่นนอกจากถึงคราวออกตามวาระการดำรงตำแหน่งของสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทำการเพื่อจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้ลงคะแนนเลือกตั้งให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครอื่น หรือให้งดเว้นการลงคะแนนเลือกตั้งให้แก่ผู้สมัครใด ด้วยวิธีการดังนี้

(1) จัดทำ ให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใด

(2) ให้ เสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมแก่ชุมชน สมาคม มูลนิธิ วัด สถาบันการศึกษา สถานสงเคราะห์ หรือสถาบันอื่นใดที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศกำหนดในราชกิจจานุเบกษา

(3) ทำการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งด้วยการจัดให้มีมหรสพหรือการรื่นเริงต่าง ๆ

(4) เลี้ยงหรือรับจะจัดเลี้ยงผู้ใด

(5) หลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้าย หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในเรื่องใดอันเกี่ยวกับผู้สมัครใดกรณีตามวรรคหนึ่ง หากเป็นการเลือกตั้งอันเนื่องมาจากการครบวาระการดำรงตำแหน่งของสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นห้ามมิให้กระทำภายในหกสิบวันก่อนวันครบวาระการดำรงตำแหน่งจนถึงวันเลือกตั้ง ส่วนการประกาศนโยบายหรือการดำเนินการตามแนวทางในการแก้ไขปัญหาตามอำนาจหน้าที่ของท้องถิ่นด้วยวิธีการใช้จ่ายจากเงินงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มิให้ถือว่าเป็นกรณีตาม (1) หรือ (2)

"กรณี 60 วันก่อนที่จะครบวาระในวันที่ 10 ม.ค.56 จึงเริ่มมีผลบังคับใช้ขึ้นแล้ว นับตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งกฎหมายได้ควบคุมกับทุกคนไม่ใช่เฉพาะผู้ว่ากฎหมายเท่านั้น โดยหมายรวมถึงผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งคนอื่นๆ ด้วย หากไปกระทำผิดกฎมายเลือกตั้งตามที่กฎหมายกำหนดไว้ เช่น ห้ามไปหาเสียงใส่ร้าย หรือกระทำการใด ๆ ที่กฎหมายห้าม ดังนั้นก็อยากจะฝากเตือนผู้ที่จะคิดลงสมัครทั้งหลายต้องระมัดระวัง และให้คำนึงถึงว่ากฎหมายเลือกตั้งว่ามีผลบังคับใช้แล้ว หากท่านได้รับการเลือกตั้ง แล้วมีคนร้องเข้ามาและกกต.มาตรวจพบว่า การกระทำของท่านผู้สมัครนั้นกระทำความผิด ก็อาจจะเหนื่อยฟรี หากโดยกกต.สอย"นายสมชัย กล่าว

นายสมชัย กล่าวอีกว่า ทันทีที่กฎหมายมีผลบังคับใช้ทางฝ่ายสืบสวนสอบสวนก็ได้ตั้งหน่วยงานขึ้นมาเพื่อดำเนินการติดตามการเลือกตั้งผู้ว่ากทม.ขึ้นมาเพื่อเก็บข้อมูลเบื้องต้นไว้แล้ว ซึ่งได้เริ่มทำงานแล้วและเรื่องของการหาเสียงที่เป็นเรื่องนโยบายก็ขอให้พึ่งระวังอย่าให้เป็นการหลอกลวง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น