BangkokElection2013 (วันที่ 2 พฤศจิกายน 2555) -นายเจริญ คันธวงศ์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์
ในฐานะกรรมการสอบสวน กรณีสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) 18 คน เลือกประธานสภา กทม.ขัดมติพรรค เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เรียกฝ่าย ส.ก. ทั้งฝ่ายที่เลือกนายสมชาย เวสารัชตระกูล
ส.ก.เขตสายไหม ตามมติพรรค และ ส.ก.ฝ่ายที่ขัดมติพรรคฯไปจับมือกับ
ส.ก.พรรคเพื่อไทย เลือกนายพิพัฒน์ ลาภปรารถนา ส.ก.เขตบางรักเป็นประธาน มาให้ข้อมูลกับทางคณะกรรมการทั้งหมดแล้ว
โดยในส่วนของฝ่ายที่กระทำการขัดมติพรรค ได้สอบถามเหตุผลและที่มาของการตัดสินใจดังกล่าว
ซึ่งเรื่องนี้เป็นการกระทำที่ขัดต่อมติของพรรคฯ อย่างชัดเจน โดย ส.ก.ที่โหวตเลือกนายพิพัฒน์
ส่วนใหญ่ที่มาให้ข้อมูล สรุปได้เป็น 2 ส่วนคือ เหตุผลเรื่องของอาวุโส
ซึ่งเห็นว่าการเลือกคนเป็นประธานสภา กทม.นั้น แม้ทางพรรคจะไม่ได้มีระเบียบหรือกฎเกณฑ์ในเรื่องอาวุโส
กำหนดไว้ แต่ที่ผ่านมาก็ปฏิบัติกันจนเป็นประเพณีที่จะต้องเลือกคนที่มีความอาวุโสทาง
การเมือง ได้รับเลือกมาหลายสมัย จึงเห็นว่านายสมชาย ยังไม่เหมาะสมที่จะลงชิงตำแหน่งดังกล่าว
ส่วนอีกเหตุผลหลัก คือ การปฏิบัติตัวของผู้ใหญ่ในพรรคบางคนที่วางตัวไม่เป็นกลาง
ซึ่งคณะกรรมการฯ อยู่ระหว่างสรุปผลการสอบสวน แต่อาจมีการเรียกทั้งสองฝ่ายเป็นบางคนมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม
จะสรุปเรื่องเพื่อรายงานต่อหัวหน้าพรรคฯ และนำเข้าสู่การพิจารณาของกรรมการบริหารพรรคฯ
ว่าจะมีแนวทางดำเนินการกับ ส.ก.กลุ่มที่ขัดมติพรรคอย่างไรต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า การสอบสวน ส.ก.ฝ่ายที่ทำขัดมติพรรคฯ ซึ่งในวันที่มีการเลือกตั้งประธานฯ มี ส.ก. ประชาธิปัตย์ รวมนายพิพัฒน์ ลาภปรารถนา รวม 18 คน ที่อยู่ในห้องและยกมือเลือกนายพิพัฒน์ แต่ในการสอบสวนที่มีการเรียกสอบถาม ส.ก. กลุ่มดังกล่าวทั้ง 18 คนนั้น ปรากฏว่า มีนางสาวพรพิมล คงอุดม ส.ก.เขตบางซื่อ นายประสิทธิ์ รักสลาม ส.ก.เขตวัฒนา และนายวันชัย เปี่ยมสวัสดิ์ เขตทุ่งครุ รวม 21 คน ขอเข้าพบคณะกรรมการสอบสวนด้วย เนื่องจากเห็นด้วยกับแนวทางของ ส.ก.กลุ่มดังกล่าว แต่ไม่สามารถเข้าไปในห้องประชุมในวันดังกล่าวได้จึงขอเข้าให้ข้อมูลกับ กรรมการฯ ด้วย ทั้งนี้ ในการให้ข้อมูลกับคณะกรรมการฯ นอกจากประเด็นหลัก เรื่องอาวุโส และ การวางตัวของผู้ใหญ่ในพรรคแล้ว ยังมีการปูดข้อมูลอีกว่ามีการซื้อเสียงเพื่อให้ลงคะแนนให้กับ ส.ก.ที่ลงชิงเก้าอี้ด้วย โดยเรื่องนี้ ส.ก.หลายคนต้องการให้มีการสอบสวนให้ปรากฏข้อเท็จจริงให้ถึงที่สุด เพราะทำให้เสียหายต่อสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร และพรรคประชาธิปัตย์อย่างมาก ไม่ต้องการให้ประเด็นดังกล่าวเป็นข่าวลือและจบไป จะต้องพิสูจน์ให้เห็นข้อเท็จจริง และนำมาเปิดโปง ให้คนที่ทำการณ์ดังกล่าวได้รับโทษ เพราะเป็นเรื่องที่ร้ายแรงต่อการเป็นผู้แทนของประชาชน เป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้.
รายงานข่าวแจ้งว่า การสอบสวน ส.ก.ฝ่ายที่ทำขัดมติพรรคฯ ซึ่งในวันที่มีการเลือกตั้งประธานฯ มี ส.ก. ประชาธิปัตย์ รวมนายพิพัฒน์ ลาภปรารถนา รวม 18 คน ที่อยู่ในห้องและยกมือเลือกนายพิพัฒน์ แต่ในการสอบสวนที่มีการเรียกสอบถาม ส.ก. กลุ่มดังกล่าวทั้ง 18 คนนั้น ปรากฏว่า มีนางสาวพรพิมล คงอุดม ส.ก.เขตบางซื่อ นายประสิทธิ์ รักสลาม ส.ก.เขตวัฒนา และนายวันชัย เปี่ยมสวัสดิ์ เขตทุ่งครุ รวม 21 คน ขอเข้าพบคณะกรรมการสอบสวนด้วย เนื่องจากเห็นด้วยกับแนวทางของ ส.ก.กลุ่มดังกล่าว แต่ไม่สามารถเข้าไปในห้องประชุมในวันดังกล่าวได้จึงขอเข้าให้ข้อมูลกับ กรรมการฯ ด้วย ทั้งนี้ ในการให้ข้อมูลกับคณะกรรมการฯ นอกจากประเด็นหลัก เรื่องอาวุโส และ การวางตัวของผู้ใหญ่ในพรรคแล้ว ยังมีการปูดข้อมูลอีกว่ามีการซื้อเสียงเพื่อให้ลงคะแนนให้กับ ส.ก.ที่ลงชิงเก้าอี้ด้วย โดยเรื่องนี้ ส.ก.หลายคนต้องการให้มีการสอบสวนให้ปรากฏข้อเท็จจริงให้ถึงที่สุด เพราะทำให้เสียหายต่อสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร และพรรคประชาธิปัตย์อย่างมาก ไม่ต้องการให้ประเด็นดังกล่าวเป็นข่าวลือและจบไป จะต้องพิสูจน์ให้เห็นข้อเท็จจริง และนำมาเปิดโปง ให้คนที่ทำการณ์ดังกล่าวได้รับโทษ เพราะเป็นเรื่องที่ร้ายแรงต่อการเป็นผู้แทนของประชาชน เป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น