วันอังคารที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ไร้น้ำยา ! โวย กทม. ดูแลอนุสาวรีย์ชัยฯ เละเทะ วินรถตู้-แผงลอย-มิจฉาชีพ

BangkokElection2013 (วันที่ 4 ธันวาคม 2555 ) - ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร กลุ่มคนรักษ์อนุสาวรีย์ได้เข้ายื่นข้อเสนอเกี่ยวปัญหาพื้นที่สาธารณะรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิต่อกรุงเทพมหานคร  หลังจากนั้นมีการประชุมร่วมกันระหว่าง  กทม. ข้าราชการการเมืองทั้ง สก. สข  สส. เขต และ บชน. ผอ.สำนักจราจรและผอ.เขต นางทยา ทีปสุวรรณ พญ.มาลินี  สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าฯกทม.  ปลัดกทม. ขสมก. และคนรับสัมปทาน กลุ่มคนรักษ์อนุสาวรีย์ ภาคเอกชนและภาคประชาชนประมาณ 40 คน

นางสาวปารีณา ประยุกต์วงศ์  ผู้จัดการเครือข่ายความร่วมมือระหว่างภาคธุรกิจและประชาสังคม เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน  (The NETWORK of NGO and Business Partnerships for Sustainable Development ) สมาชิกกลุ่มรักษ์อนุสาวรีย์ กล่าวว่า ทางกลุ่มได้ยื่นข้อเรียกร้องให้ กทม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบ  
1.ขอให้เปิดเผยสัญญาระหว่างกทม. กับบริษัทที่รับสัปทาน ทั้ง 3 บริษัท  
2. ขอให้ กทม. เปิดเผยจำนวนร้านค้าแผงลอย ที่ได้รับการผ่อนผันทั่วเกาะอนุสาวรีย์ และขอให้ทางตำรวจเปิดเผยจำนวนรถตู้ที่อยู่รอบเกาะทั้ง 4 เกาะ
3. เรื่องพื้นที่สาธารณะ ห้ามตัดต้นไม้ และอยากเห็นภาพ แลนด์สเคปที่จะปรับปรุงทั้ง 
4 เกาะ  และสุดท้าย ตรงโรงพยาบาลราชวิถีจำนวนรถตู้และร้านค้ามีเป็นจำนวนมาก ทำให้มีปัญหาการรรับ-ส่งผู้ป่วย ขอให้ยกเลิกการผ่อนผันทั้งรถตู้และร้านค้า แต่ กทม. ก็แบ่งรับแบ่งสู้ในเรื่องการยกเลิการผ่อนผันร้านค้า ส่วนเรื่องรถตู้ บชน.ก็แบ่งรับแบ่งสู้เช่นเดียวกัน


เราต้องการให้มีพื้นที่สีเขียว มีสวนหย่อมบ้าง  ซึ่งอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเคยมีสวนหย่อมเล็ก ๆ แต่ตอนนี้หายไป มีร้านค้าเข้ามาแทนที่ เราต้องการให้มีการจัดระเบียบใหม่ทั้งหาบเร่ แผงลอย และจัดระเบียบรถตู้  เพราะตอนนี้สภาพอนุสาวรีย์สมรภูมิกลายเป็นหมอชิต 2  , สถานี เอกมัย ,สถานีขนส่งสายใต้  และจตุจักร 2 ไปแล้วนางสาวปารีณา กล่าว

จากผลการหารือได้มีการตั้งคณะทำงานติดตามปัญหาอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และทาง กทม. ได้ให้กลุ่มรักษ์อนุวาสรีย์เข้าเป็นกรรมการด้วย โดยจะประชุม อีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า   ทั้งนี้ในส่วนของสัญญาสัปทานทั้ง 3 สัญญา ทางกทม. จะนำมาเปิดเผยในการประชุมครั้งหน้า

พญ.มาลินี กล่าวว่าทางกทม.จะเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนได้เข้ามามีส่วนร่วมในแผนปรับภูมิทัศน์ในบริเวณรอบ ๆ อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยขณะนี้ทาง กทม.ได้ให้ดำเนินการประมูลให้กับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในการพัฒนาและปรับปรุงพื้นที่โดยรอบอนุเสาวรีย์ฯและคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า

กทม.จะปรับปรุงให้พื้นที่อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิเป็นพื้นที่สำหรับสูดอากาศสดชื่นและมีพื้นที่สาธารณะสำหรับทำกิจกรรมมากขึ้น โดยทางกทม.จะเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้มากขึ้นและจะไม่ตัดต้นไม้ที่มีอยู่เดิม นอกจากนี้กทม.จะพัฒนาพื้นที่นี้โดยอยู่บนพื้นฐานของการสร้างอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิและให้ทหารเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนารองผู้ว่ากทม.กล่าว

ในส่วนของการจัดระเบียบรถตู้ทั้งที่ผิดกฎหมายและถูกกฎหมายนั้น พญ.มาลินีกล่าวว่า ทางกทม.จะหารือกับทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลและองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)เพื่อหาแนวทางจัดระเบียบรถตู้รอบ ๆ บริเวณอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยเบื้องต้นอาจให้รถตู้ย้ายวินไปยังสถานที่อื่นและเมื่อผู้โดยสารพร้อมแล้วจึงให้รถตู้วิ่งมารับผู้โดยสารบริเวณจุดจอด สำหรับการจัดระเบียบหาบเร่แผงลอยนั้นอาจจะต้องไปดูจุดผ่อนผันในพื้นที่

ทางกทม.จะลงพื้นที่อีก 2 อาทิตย์ข้างหน้าเพื่อเอาแผนปรับภูมิทัศน์ไปให้คนในพื้นที่ดูว่าเห็นด้วยกับแผนที่จะปรับปรุงหรือไม่และจะจัดระเบียบกันอย่างไร ซึ่งกทม.จะเปิดโอกาสให้ทุกคนได้เข้ามามีส่วนร่วมในแผนนี้ด้วยพญ.มาลินีกล่าว

นายรัชพล ไกรจิรโชติ สมาชิกกลุ่มคนรักษ์อนุสาวรีย์ กล่าวว่า พื้นที่อนุเสาวรีย์ชัยมีพื้นที่อยู่ 4 ด้าน ที่เป็นป้ายรถเมล์และเป็นลานกิจกรรมใหญ่  เดิม กทม.ให้เอกชนทำเป็นคล้าย ๆ สัญญาสัปทานเพื่อที่จะปรับปรุงพื้นที่ให้เป็นลานกิจกรรม มีทั้งพื้นทีค้าขาย พื้นที่สาธารณะที่จะใช้ประโยชน์ในด้านอื่น ๆ อย่างเช่นสวนหย่อมต่าง ๆ หลายปีที่ผ่านมา มีการใช้พื้นที่ผิดประเภท กลายเป็นร้านอาหารขายเหล้าขายเบียร์และในที่สุดกลายเป็นตลาดนัดในที่สุดไปทั้งหมด  สวนหย่อม ๆ แรกที่ ๆเคยมีคนไปออกกำลังกายเต้นแอโรบิคได้บ้างมีการจัดการกิจกรรมของนักเรียนหรือให้ความรู้ องค์กรสาธารณะ หลัง ๆ ก็ไม่มี ซึ่งทาง กทม.ก็ไม่ใครมาดูแลเรื่องนี้ สัญญาของเขาพอครบไป 8-9 ปี ตอนนี้มีการต่อสัญญารอบใหม่ แต่ว่าทางกลุ่มคนรักษ์อนุเสาวรีย์ประกอบไปด้วยคนที่เป็นที่อาศัยย่านนี้ ผู้ที่ใช้ชีวิตในด้านนี้ องค์กรสาธารณะต่าง ๆ รวมทั้งสถานประกอบการ โรงพยาบาล คลินิกโรงเรียน กลับไม่รับรู้เรื่องดังกล่าว

นายรัชพล กล่าวต่อว่า ทางกลุ่มคนรักษ์อนุสาวรีย์ ก็มีการรวมตัวมาคุยกันว่า พื้นที่รอบอนุเสาวรีย์ชัยฯ ที่เป็นสวนหย่อมได้กลายเป็นอย่างอื่นไปแล้วและตอนนี้ กทม.มีการปรับปรุงเราก็อยากให้กทม.เปิดโอกาสให้ชุมชนเข้าไปมีส่วนร่วม ในการดูว่า พื้นที่ตรงนี้นอกจากเอกชนที่จะใช้เพื่อการค้าขายและเข้ามาลงทุนแล้ว ในส่วนพื้นที่ที่จัดสรรเป็นพื้นที่สาธารณะจะใช้งานทำอะไร เท่าที่ผ่านมามีการใช้งานผิดวัตถุประสงค์ ไม่มีการดูแล และสร้างความเดือดร้อนให้กับชุมชน

เราก็อยากให้ชุมชนเข้าไปมีบทบาทรับฟังนโยบายของ กทม. เป็นอย่างไรและหลังจากที่ปรับปรุงเสร็จแล้ว กทม.มีนโยบายที่จะดูแลพื้นที่อย่างไร มีการกำกับการใช้พื้นที่อย่างไร อยากให้ชุมชนเข้าไปมีโอกาสแสดงความคิดเห็นและมีส่วนใช้ประโยชน์ในพื้นที่สาธารณะ ถ้าเป็นกิจกรรมเพื่อสังคมและเพื่อประโยชน์ส่วนร่วมน่าจะมีโอกาสเข้าไปใช้พื้นที่ไม่ใช่เป็นเอกชนหรือใครคนใดคนหนึ่งตัดสินว่าพื้นที่สาธารณะตรงนี้จะทำอะไร ทำอะไรไม่ได้ คือสิ่งที่เราอยากให้กทม.ได้เปิดโอกาสให้ชุมชนและเรามีส่วนร่วมในเรื่องนี้”  สมาชิกกลุ่มคนรักษ์อนุสาวรีย์ กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น