ร.ท.(หญิง) สุณิสา เลิศภควัต
รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เพื่อความสง่างาม
พรรคประชาธิปัตย์ควรชี้แจงสังคมให้ชัดเจนว่า เหตุที่พรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต้องจำใจสนับสนุน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ในนาทีสุดท้าย
ไม่ได้เป็นเพราะ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กุมความลับอะไรไว้ใช่หรือไม่
หรือว่ามีเบื้องหลังเบื้องลึกอะไรที่ต้องร่วมกันปกปิดเกี่ยวกับผลประโยชน์ ระหว่าง
กทม.กับบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ซึ่งมีนายประพันธ์พงษ์
เวชชาชีวะ ญาติของนายอภิสิทธิ์
ร่วมเป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนามในการจัดซื้อจัดจ้างโครงการต่างๆ แทน กทม.
ในฐานะวิสาหกิจของ กทม.
ทั้งนี้
พรรคประชาธิปัตย์ควรทำให้สังคมมั่นใจว่า ไม่ได้มีเรื่องการเก็บผลประโยชน์ใต้โต๊ะ
หรือการหักหัวคิวให้นักการเมือง จนต้องกลัวการแบล็กเมล์ หรือรายการแฉย้อนหลัง
เพราะโครงการจัดซื้อจัดจ้างต่างๆ ที่บริษัท กรุงเทพธนาคม ดำเนินการให้ กทม.
มีมูลค่ามหาศาล โดยที่ผ่านมาบริษัท กรุงเทพธนาคม
ได้เป็นตัวแทนจัดซื้อจัดจ้างของ กทม จำนวน 23 โครงการ มูลค่าราว 14,000 ล้านบาท
ซึ่งก็น่าแปลกใจที่นายอภิสิทธิ์ ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น
กล้าปล่อยให้ญาติของตัวเองเป็นผู้เซ็นอนุมัติการจัดซื้อจัดจ้างงานทั้งหมดของ กทม.
โดยที่นายอภิสิทธิ์ก็ไม่กลัวที่จะถูกมองว่าเข้าไปพัวพันกับผลประโยชน์
ซึ่งในฐานะที่พรรคประชาธิปัตย์ดูแลการบริหารงานของ กทม. มาตลอด
ร.ท.(หญิง) สุณิสา กล่าวต่อไปว่า นายอภิสิทธิ์
ในฐานะหัวหน้าพรรค ควรออกมาตอบให้ชัดว่าทุกอย่างโปร่งใส
และต้องชี้แจงให้ได้ว่าผลประโยชน์ไปอยู่ที่ไหนบ้าง เพราะกิจการของบริษัท
กรุงเทพธนาคม ก็ดีวันดีคืน และมีรายได้เพิ่มขึ้แบบเขย่งก้าวกระโดด โดยในปี 2551
มีรายได้เพียง 60.6 ล้านบาท แต่ในปี 2552 มีรายได้เพิ่มเป็น 355.7 ล้านบาท ปี 2553
มีรายได้พุ่งเป็น 698 ล้านบาท และในปี 2554 รายได้กระโดดไปเป็น 3,011 ล้า บาท
นอกจากนี้ ขอให้พรรคประชาธิปัตย์เลิกเบี่ยงเบนประเด็นว่า
ข้อกล่าวหากรณีบีทีเอส เป็นการดิสเครดิตทางการเมือง
แต่ควรเอาเวลามาชี้แจงข้อเท็จจริงกับสังคมจะดีกว่า เพราะขณะนี้
สังคมกำลังสงสัยว่าเหตุใดพรรคประชาธิปัตย์จึงกลับลำกะทันหัน แล้วส่ง
ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ุ เป็นผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ทั้งๆ ที่แกนนำส่วนใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์เห็นว่า
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ มีจุดอ่อนหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นความบกพร่องในการบริหารงาน
หรือการที่มีความงมงายจนมากผิดปกติ
ซึ่งเห็นได้จากการที่ต้องรอให้หมอดูช่วยตัดสินใจว่าจะลาออกจากตำแหน่งผู้ว่าฯ
กทม.วันไหน จึงเป็นไปได้ว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ุ กุมความลับบางอย่างที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์
โดยเฉพาะนายอภิสิทธิ์พูดไม่ออก.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น