วันอาทิตย์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2556

วงเสวนาปฏิรูป ชี้ เลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ 2557 คือทางออกของประเทศไทย



15 ธันวาคม 2556 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.20 น. ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้รับหมอบหมายจาก นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ดำเนินการจัดเวทีปฏิรูปเพื่อหาทางออกให้ประเทศ กล่าวเปิดการสัมมนาระดมความเห็น ประเทศไทยของเราจะไปทางไหนเพื่อหารือร่วมกับทุกภาคส่วนในการหาทางออกของประเทศ

นายธงทอง กล่าวว่า ที่มาของกิจกรรมวันนี้ ทุกท่านคงทราบดีว่าบ้านเมืองของเรา จะพูดว่าอยู่ในสภาวะวิกฤติก็คงไม่ผิด 2-3 วันที่ผ่านมาถือเป็นสัญญาณที่ดีที่มีการเปิดให้พูดคุยกัน เช่นเดียวกัน ผมได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีซึ่งได้แสดงต่อสาธารณะไปว่ารัฐบาลเองก็อยากจะมีเวทีสักเวทีขึ้นมา ซึ่งในถ้อยแถลงของนายกฯได้มอบหมายให้มาเป็นผู้ประสานงาน

การพูดคุยวันนี้ไม่ได้กำหนดว่าต้องมีประธาน หรือมีการโหวตลงมติแพ้ชนะกัน ตนทำหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการเพื่อให้ทุกคนได้มีการพูดคุย แสดงความคิดความเห็น ซึ่งในพื้นที่ที่จำกัด ก็พยายามเชิญกลุ่มที่มีบทบาทในกระบวนการทางการเมือง อาทิ 7 องค์กรธุรกิจ ข้าราชการ กลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง และที่ขาดไม่ได้คือพรรคการเมืองต่างๆ ผู้แทนองค์กรศาสนา พุทธสมาคม สถาบันทางวิชาการ สถาบันพระปกเกล้า สภาพัฒนาการเมือง ทำให้องค์ประกอบอยู่ที่ประมาณ 90 คนนายธงทองกล่าว        

ประเด็นปัญหาที่เป็นข้อถกเถียงทุกวันนี้ คือ มีพระราชกฤษฎีกา และกำหนดวันเลือกตั้ง วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ขณะที่ความเห็นของ กปปส. เห็นว่ายังไม่ควรมีการเลือกตั้ง ควรเลื่อนออกไปก่อน อีกความเห็นคือการเลือกตั้ง 2 ก.พ. เมื่อเป็นพระราชกฤษฎีกา เป็นกฏหมายแล้วก็เดินหน้าไป แต่ต้องมีกลไกอื่นในการเสริมความซื่อสัตย์สุจริต และต้องทำเป็นจังหวะขั้นตอนอย่างไร ส่วนอะไรจะทำก่อนหรือหลังก็มาถกเถียงกันก็แล้วกัน โดยในรอบแรก ขอให้แสดงความเห็นท่านละ 5 นาที

ด้านนายวีระพัฒน์ ปริยวงศ์ นักกฎหมายอิสระ กล่าวตอนหนึ่งว่า ข้อเสนอให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไปก่อนนั้นไม่สามารถทำได้ เพราะไม่มีกฎหมายรองรับ และในรัฐธรรมนูญได้กำหนดให้รัฐบาลยุบสภาฯ แล้วต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 45-60 วัน เพื่อป้องกันไม่ให้นักการเมืองเลื่อนการเลือกตั้งเพื่อประโยชน์ของตนเอง ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้สามารถทำให้โปร่งใสได้โดยไม่ต้องรอให้มีสภาประชาชนขึ้นมาตามที่ กปปส. อ้าง โดยใช้มาตรา 25 ของกฎหมายประกอบการเลือกตั้ง ที่เปิดโอกาสให้บุคคลและภาคเอกชนส่งตัวแทนเข้าร่วมสังเกตการณ์เลือกตั้ง หากพบการกระทำความผิด ระเบียบของ กกต. สามารถลงโทษได้ถึงขั้นยุบพรรค

สำหรับแนวทางปฏิรูปที่ง่ายที่สุดคือจัดการเลือกตั้งและให้รัฐบาลใหม่อยู่บริหารงาน เพียง 2 ปี และยุบสภาฯ ในระหว่างนั้นรัฐบาลต้องวางกลไกการปฏิรูปประเทศ เพื่อผูกมัดระหว่างทุกชุดในการหาทางออกประเทศ ซึ่งแนวทางสภาประชาชนจะมาในรูปแบบการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้ อาจตั้งรัฐบาลเฉพาะกิจที่ให้มีทุกภาคส่วน หรืออาจเชิญฝ่ายค้านและคู่ขัดแย้งเข้าร่วมรัฐบาลหรือสภาฯ ด้วยนายวีระพัฒน์กล่าว

นอกจากนี้ ยังมีนักกฎหมาย นักวิชาการ และผู้ทรงคุณวุฒิ อีกมากมายที่มาร่วมงานเสวนาในครั้งนี้ อาทิ พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช กรรมการข้าราชการตำรวจผู้ทรงคุณวุฒิ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ กลุ่มวันอาทิตย์สีแดง นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นายณพงศ์ นพเกตุ นักวิชาการอิสระ ฯลฯ ซึ่งผู้ร่วมเสวนาส่วนใหญ่เห็นด้วยว่า การเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. 2557 จะเป็นทางออกของประเทศไทย








วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2556

“สุขุมพันธุ์” น้ำตาแตก แหกโค้ง แถลง คว้าชัยผู้ว่าฯกทม.


3 มีนาคม 2556 Bangkok Election - ที่พรรคประชาธิปัตย์ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ว่าที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนใหม่ ได้ออกแถลงการณ์ พร้อมแกนนำพรรค หลังทราบผลการนับคะแนนเลือกตั้งผู้ว่า กทม อย่างไม่เป็นทางการ โดยระบุว่า
ขอกราบขอบคุณทุกคะแนนเสียง ที่มอบให้พรรคประชาธิปัตย์ชนะการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างท้วมท้นเกินล้านคะแนน ทุกคะแนนเสียงเปรียบเหมือนเสียงสวรรค์ ที่ส่งตนถึงฝั่ง

พร้อมกันนี้ขอขอบคุณน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ได้สัญญาว่าจะร่วมทำงานอย่างไร้รอยต่อกับ กทม. ที่มีตนเป็นผู้ว่าฯ เพื่อที่จะให้ กทม. เดินหน้าไปได้

ซึ่งต่อจากนี้ไปจะไม่มีคำว่าชักช้า จะเดินหน้าทำทันที เพื่อที่จะให้ประชาธิปัตย์ อยู่กับคน กทม. ไปถึง 16ปี และเชิญชวนคนกรุงเทพทุกคนร่วมสร้าง กทม. ที่เรารักไปด้วยกัน ทั้งนี้ขอสัญญาว่าตั้งใจทำงานให้มากกว่าเดิม เพื่อดูแลคนกรุงเทพ

ผมจะไม่ลืมตลอดชีวิต ที่ให้โอกาสผมอีกครั้งเพื่อรับใช้ปชช.ในเมืองที่ผมรัก ที่ผมเกิด ในเมืองที่ผมดำเนินชีวิตอยู่ ในเมืองที่ผมจะตาย

แพ้แล้วพาล ? "เสรีพิสุทธิ์" โวยการเมืองเล่นงาน ไม่พอใจคะแนน ไม่ขอร่วมงาน


3 มีนาคม 2556 Bangkok Election - พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ได้แถลงข่าวภายหลังทราบผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการว่า ขอขอบคุณประชาชนที่ลงคะแนนให้ในการเลือกตั้งครั้งนี้ จากผลคะแนน การวิเคราะห์ผลโพลก่อนเลือกตั้ง ซึ่งออกมาว่า คนที่จะชนะคือ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย แล้วต่อมาด้วยอันดับ 2 คือ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย และตนมีคะแนนอยู่อันดับ 3 ซึ่งมีคะแนนห่างกันมาก โดยผลโพลที่ออกมาขัดจากคะแนนที่เป็นจริง และจากการที่ตนได้ลงพื้นที่และคาดคะเนไว้ ซึ่งจากการลงพื้นที่นั้น ตนก็ได้เสียงตอบรับจากประชาชนด้วยดีตลอดมา โดยผลที่ออกมา เป็นเกมการเมืองเป็นหลัก และที่นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำนปช. ออกมาพูดว่าถ้าผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยได้เป็นผู้ว่าฯจะออกมาปรับเปลี่ยนกทม. ส่งผลให้คนกลัว จึงลงคะแนนให้ผู้สมัครจากพรรคปชป. รวมทั้ง พรรคปชป.ได้หาเสียงโจมตีว่าถ้าเลือกตนก็จะได้ผู้ว่าฯจากพรรคเพื่อไทย ทำให้ฐานเสียงของตนไปลงคะแนนให้กับผู้สมัครพรรคปชป. อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ฝนตกที่เกิดขึ้นวันนี้ ก็ยังส่งผลให้การจราจรติดขัด จนทำให้ประชาชนไม่สามารถมาลงคะแนนทัน จากยอดคะแนนที่จะสูงกว่านี้จึงลดต่ำลง

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวอีกว่า ประชาชนต้องยอมรับผิดชอบกับผลที่เลือก ซึ่งพรรคปชป.บริหารกทม.มาก็เห็นอยู่ว่าเป็นอย่างไร ก็ต้องยอมรับกันต่อไป ทั้งนี้ หากเทียบคะแนนผู้สมัครอิสระที่ไม่มีชื่อเสียงในการเลือกตั้งครั้งก่อนๆ คะแนนจะอยู่ที่ประมาณ 3 แสนกว่า แต่ตนมีชื่อเสียง กลับได้คะแนนแค่ 1 แสนกว่า จึงรู้สึกผิดหวังกับคะแนนที่ได้ ส่วนอนาคตทางการเมือง ในตำแหน่งผู้ว่าฯกทม. ตนไม่คิดจะลงสมัครแล้ว เพราะอายุเยอะแล้ว สำหรับเวทีการเมืองระดับชาตินั้น ยังไม่สามารถตอบได้ชัด เนื่องจากในอนาคตอาจมีการเปลี่ยนแปลง จึงไม่อยากพูดผูกมัดตัวเอง ส่วนนโยบายของตน ถ้าว่าที่ผู้ว่าฯกทม.จะนำไปใช้ ตนก็ยินดี แต่จะไม่ขอร่วมงาน เพราะได้ประกาศชัดเจนแล้วว่าจะไม่สังกัดพรรคการเมืองในการสมัครผู้ว่าฯกทม

เพื่อไทยแถลงขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่มอบความไว้ใจ พร้อมทำงานกับ กทม. แบบไร้รอยต่อ


3 มีนาคม 2556 Bangkok Election - ที่พรรคเพื่อไทย  น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กล่าวแถลงข่าวว่า  ในนามของพรรคเพื่อไทยและตัวดิฉันขอถือโอกาสแสดงความยินดีกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร  ในการที่ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนในครั้งนี้

ในนามเพื่อไทยขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่มอบให้  โดยตลอด 48 วันที่ลงพื้นที่เป็นโอกาสดีที่ได้รับฟังปัญหาต่างๆของพี่น้องชาวกทม.และได้รับกำลังใจ แม้ว่าคะแนนของเราไม่สามารถก้าวสู่การเป็นผู้ว่ากทม.เพื่อรับใช้คนกทม.  แต่เราก็พร้อมและยินดีทำงานรับใช้คนกทม.ต่อไป และแม้ว่านโยบายต่างๆที่นำเสนอไปกับพี่น้องประชาชน สิ่งไหนที่เป็นนโยบายที่ดีก็จะผลักดันต่อไป ดิฉันก็พร้อมทำงานกับผู้ว่ากทม.อย่างไร้รอยต่อเช่นกัน

สุดท้ายดิฉันขอขอบคุณทางพรรคเพื่อไทย กรรมการบริหาร ทีมงาน เพราะทุกคนทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยและเต็มที่แล้ว ทุกคะแนนถือเป็นกำลังใจของพรรคเพื่อไทยตลอดไป

ด้านพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครผู้ว่ากทม. กล่าวว่า  ขอแสดงความยินดีกับม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ด้วยความจริงใจและขออวยพรให้ประสบความสำเร็จในการบริหารราชการกทม.ในอีก 4 ปีข้างหน้าต่อไป อะไรที่จะช่วยเหลือได้ก็ยินดีและเต็มใจอย่างยิ่ง และไม่ว่าจะอยู่ในฐานะใดหรือตำแหน่งแห่งหนใด ก็พร้อมร่วมทุกข์ร่วมสุขกับพี่น้องประชาชน ถ้าจะทำอะไรให้ได้ก็จะทำเต็มที่ เต็มกำลังความสามารถ ขอโอกาสนี้ขอบคุณอย่างจริงใจต่อทุกคะแนนที่มอบให้

จนถึงวันนี้ยืนยันว่าในการทำงานไม่ว่าอยู่ในฐานะใดก็จะทำงานอย่างเต็มที่ และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกส่วนที่ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

บช.น. เผยหลังปิดหีบเลือกตั้ง มีการกระทำผิดกฎหมาย 3 ราย ทำลายบัตร-ลงคะแนนโดยไม่มีสิทธิเลือกตั้ง


3 มีนาคม 2556 Bangkok Election - ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น. ในฐานะโฆษก บช.น. เปิดเผยถึงสถานการณ์การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ว่า สถานการณ์การเลือกตั้งในรอบวันนี้ ตั้งแต่เปิดหีบเลือกตั้ง ตั้งแต่ 08.00 น. เป็นต้นมา จนถึงขณะนี้ ปิดหีบเลือกตั้ง เวลา 15.00 น. เรียบร้อยแล้ว กำลังอยู่ในขั้นตอนการนับคะแนนที่หน่วยเลือกตั้ง โดยมีสถานการณ์ทั้งวันเป็นปกติกองบัญชาการตำรวจนครบาล มีการรายงานสถานการณ์ ดังนี้ สถานการณ์การกระทำความผิด พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2545 นับตั้งแต่ เปิดหีบเลือกตั้ง เมื่อเวลา 08.00 น. เป็นต้นมา พบเหตุการณ์กระทำผิดกฎหมาย 3 ราย รายแรกเป็นการทำลายบัตรเลือกตั้ง โดยนายสมเดช เทียนสุวรรณ อายุ 57 ปี เหตุเกิดที่ หน่วยเลือกตั้งที่ 13 ซอยมาตานุสรณ์ แขวง/เขตบางคอแหลม ได้ฉีกบัตรเลือกตั้ง ทำให้บัตรได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมตัวนำส่ง สน.วัดพระยาไกร ผลการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายสมเดชได้ให้การว่าเป็นการเข้าใจผิด โดยได้กระทำไปโดยไม่ได้ตั้งใจ โดยตนเองเข้าใจว่า จะต้องกา 2 ส่วน คือ ส่วนบุคคลผู้รับสมัครและส่วนพรรค ดังนั้นเมื่อ   กาผู้สมัครเรียบร้อยแล้ว จึงฉีกบัตรส่วนหนึ่งออก และจะกาในอีกส่วนหนึ่ง จึงถูกจับกุมดำเนินคดี ซึ่งพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างสอบสวนดำเนินคดี

พล.ต.ต.อดุลย์กล่าวอีกว่า รายที่ 2 การทำลายบัตรเลือกตั้ง โดยนางสาวประณีต วัชรินทร์ อายุ 34 ปี เหตุเกิดที่หน่วยเลือกตั้งที่ 16 โรงเรียนไทยอาชีวะศึกษา ซอยจรัญสนิทวงศ์ 71  แขวงและเขตบางพลัด โดยน.ส.ประณีต รับบัตรเลือกตั้ง และเข้าไปยังคูหาเลือกตั้งเพื่อจะกากบาท แต่ตนเอง  จำหมายเลขผู้สมัครที่ต้องการจะเลือกไม่ได้ จึงเดินถือบัตรเลือกตั้งจะออกมาดูหมายเลขผู้สมัครที่บริเวณหน้าหน่วยเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่พบเห็นจึงได้ห้ามนำบัตรเลือกตั้งออกนอกคูหา น.ส.ประณีต โมโหจึงฉีกบัตรเลือกตั้ง  จึงถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัว นำส่ง สน.บางพลัดดำเนินคดี  ซึ่งพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างสอบสวนดำเนินคดี  และรายที่ 3 ลงคะแนนโดยไม่มีสิทธิเลือกตั้ง โดยน.ส.งามเนตร แดงดี อายุ 26 ปี เหตุเกิดที่หน่วยเลือกตั้งที่ 10 ศาลาวัดบัวผัน แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ พบน.ส.งามเนตร กำลังจะหย่อนบัตรลงคะแนนลงในหีบบัตร ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจำได้ว่า น.ส.งามเนตรได้เข้ามาใช้สิทธิลงคะแนนไปก่อนหน้านี้แล้ว จึงเข้าไปตรวจสอบ พบบัตรประชาชนของผู้อื่นของนางจำลอง    แดงดี  และบัตรเลือกตั้งพับเรียบร้อยแล้ว อยู่ในมือขวา จึงได้ไปสอบถาม ให้การรับสารภาพว่า นางจำลองเป็นย่าแท้ๆของตัวเอง และรับว่าสวมสิทธิของนางจำลองมาลงคะแนนเสียงแทนนางจำลองจริง


สำหรับสถานการณ์การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยและชุดปฏิบัติการได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเรียบร้อย ส่งผลให้การเลือกตั้งในครั้งนี้ สามารถดำเนินการไปได้ด้วยความเรียบร้อยตลอดทั้งวัน ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย ที่ได้ร่วมแรงร่วมใจกันทำงานอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยจนกระทั่งทำให้การเลือกตั้งในครั้งนี้ ได้ปิดหีบไปด้วยความเรียบร้อย รวมทั้งขอขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกท่านที่ได้ช่วยกันเป็นหูเป็นตาดูแลการเลือกตั้งครั้งนี้ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โปร่งใส บริสุทธิ์ ยุติธรรม อย่างเต็มที่โฆษก บช.น.กล่าว

"สุขุมพันธุ์"ทิ้งห่าง"พงศพัศ"กว่า 1 แสน "กทม." นับคะแนนไปกว่าครึ่ง


3 มีนาคม 2556 Bangkok Election - ที่ศูนย์ประมวลผลคะแนนเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ศาลาว่าการกทม. ได้มีการรายงานผลการนับคะแนนการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. อย่างไม่เป็นทางการ โดยมีรายงานล่าสุด ณ เวลา 17.30 น. พบว่าได้มีการนับคะแนนเสร็จสิ้นไปแล้ว 3,448 หน่วยจากทั้งหมด 6,548 หน่วย คิดเป็น 52.66 เปอร์เซ็นต์ โดยผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. ที่มีคะแนนสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครฯ หมายเลข 16 พรรคประชาธิปัตย์ ได้ 616,595 คะแนน, 2. พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครฯ หมายเลข 9 ได้ 512,067 คะแนน, 3.พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ เตมียาเวส ผู้สมัครฯ หมายเลข 11 ในนาม อิสระ ได้ 81,399 คะแนน, 4.นายสุหฤท สยามวาลา ผู้สมัครฯ หมายเลข 17 ในนามอิสระ ได้คะแนน 38,367 คะแนน และ 5.นายโฆสิต สุวินิจจิต ผู้สมัครฯ หมายเลข 10 ในนามอิสระ ได้คะแนน 13,800 คะแนน
ทางด้านนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เข้ามาตรวจเยี่ยมศูย์ประมวลผลคะแนนเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. จากนั้นได้แถลงขอบคุณสื่อมวลชนที่ได้ให้การประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งกันอย่างคึกคัก สำหรับการรับรองผลการเลือกตั้งนั้น คาดว่าหลังจากที่ กกต.กทม.ได้ส่งผลคะแนนของผู้สมัครฯ ที่ได้รับคะแนนสูงสุด มาให้กกต. แล้วจะมีพิจารณาประกาศรับรองภายใน 7 วัน ด้านการตรวจสอบเรื่องร้องเรียน เท่าที่ดูข้อมูลไม่ใช่เรื่องรุนแรง เป็นรายชื่อที่มีความผิดพลาด ซึ่งไม่เป็นเรื่องปกติ เบื้องต้นไม่คาดว่าจะไม่มีผลถึงขั้นให้ใบเหลือง หรือใบแดง แต่ต้องพิจารณาตามหลักฐาน โดยตามกฎหมายได้กำหนดให้มีการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน
นายยศศักดิ์ คงมาก ผู้ช่วยปลัดกทม. ประกาศว่าขณะนี้ เขตยานนาวา ได้นับคะแนนเสร็จสิ้น 100 เปอร์เซ็นต์ เป็นเขตแรกแล้ว

สุขุมพันธุ์สงวนท่าทียอมรับชัยชนะ แนะเลิกทำ Exit Poll


3 มีนาคม 2556 Bangkok Election - ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 16 พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ให้สัมภาษณ์อย่างสงวนท่าที โดยยังไม่ขอรับว่าจะชนะการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ในครั้งนี้ แต่จะขอรอดูผลคะแนนที่แท้จริงก่อน เพราะการนับคะแนนยังไม่เสร็จสิ้น

"ผมยังไม่ขอรับ(ว่าจะชนะ) ผมอยู่กับความจริง ตอนนี้ยังนับคะแนนไม่หมด ต้องรอดูคะแนนจริงๆ ก่อน...ที่สำคัญคือประชาชนออกไปใช้สิทธิกันมาก เพราะฉะนั้นผมอยากให้เกียรติ์ประชาชน ยังไม่อยากจะสรุปตอนนี้" ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ระบุ

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ยังกล่าวถึงการทำ Exit Poll ของแต่ละสำนักว่า ตั้งแต่ลงสมัครรับเลือกตั้งมาไม่เคยเห็นว่า Exit Poll ของสำนักใดมีความแม่นยำ ทั้งนี้เพราะวัฒนธรรมของคนไทยในการตอบคำถาม Exit Poll จะแตกต่างจากคนอังกฤษ คือ คนไทยเมื่อรักชอบใครมักจะไม่พูดออกมาตรงๆ ดังนั้นผลโพลล์ที่ออกมาจึงอาจจะไม่ตรงกับความเป็นจริง ดังนั้นจึงฝากไปถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) และสำนักโพลล์ต่างๆ ให้พิจารณาถึงความเหมาะสมในการทำ Exit Poll สำหรับการเลือกตั้งในครั้งต่อไป

"ผมไม่ได้วิจารณ์ผู้ที่ทำโพลล์ แต่วัฒนธรรมของคนไทยไม่เหมือนกับคนอังกฤษ คนไทยรักใครชอบใครมักจะไม่พูด ผลที่ออกมาจึงมักคลาดเคลื่อนมาก...อยากให้ กกต.และสำนักโพลล์พิจารณาเรื่องนี้ในการเลือกตั้งครั้งหน้าว่าสมควรหรือไม่ที่จะทำ Exit Poll" ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าว